‘เอสซีจี’พลิกโฉมแฟลกชิพสโตร์
เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ พลิกโฉมแฟลกชิพสโตร์แก้ข้อจำกัด-ตอบโจทย์ 4 เทรนด์ไลฟ์สไตล์คนมีบ้าน หวังดึงลูกค้าใช้บริการเพิ่ม 2 เท่า ดันยอดขายเพิ่ม 70%
ทั้งนี้ ทางกลุ่มธุรกิจได้จัดทำเวิร์คช็อปสำรวจความต้องการของผู้อยู่อาศัยและผู้สร้างบ้านในยุคปัจจุบัน จึงได้สรุปเทรนด์ผู้อยู่อาศัยในบ้านยุคปัจจุบันเป็น 4 รูปแบบ กล่าวคือ 1.บ้านไม่ใช่เพียงสิ่งปลูกสร้างที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสะท้อนความเป็นตัวตนผ่านบ้าน 2.บ้านมีการขยายผู้อยู่อาศัยที่มีความแตกต่างด้านเจเนอเรชั่นเพิ่มขึ้น 3.ผู้บริโภคมีการเชื่อมโลกออนไลน์และโลกออนไลน์แบบไร้รอยต่อผ่านเทคโนโลยี และ 4.ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินเพื่อตอบโจทย์ในการช่วยลดอุปสรรคความยุ่งยากในการสร้างบ้าน ที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น
เทรนด์ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการพลิกโฉมแฟลกชิพสโตร์ภายใต้แนวคิด “Better Living Made Possible: เปิดประสบการณ์ใหม่ เพื่อที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้นเป็นจริงได้” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ที่มีความต้องการเฉพาะบุคคลและครบทุกความต้องการ โดยการผสานเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็วในการออกแบบและตกแต่ง รวมถึงสร้างบ้าน
“ที่ผ่านมา 10 ปี เป็นการเปิดแฟลกชิพเพื่อรองรับการดูแลและให้บริการแนะนำนวัตกรรมสินค้าในกลุ่มธุรกิจ แต่รูปโฉมใหม่มีการบริการครบวงจรทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงนำเทคโนโลยีมาช่วยการการออกแบบและสร้างบ้าน”
นายศานิตย์ ยังกล่าวต่อว่า แฟลกชิพสโตร์แห่งใหม่จะช่วยตอบโจทย์ของปัญหาหลักของผู้สร้างบ้านที่ผ่านมา มักเผชิญกับอุปสรรคจนเกิดความทุกข์ใจ (Pain Point) จาก 3 ปัญหาหลัก ประกอบด้วย 1.การไม่ได้แบบตามความต้องการ 2.มีนวัตกรรมหลากหลายแต่ยังขาดการเชื่อมโยงการทำงานและติดตั้ง 3.ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่เข้าใจแบบตามต้องการ
สำหรับผลการดำเนินงานหลังจากเปิดแฟลกชิปสโตร์ 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้ามาใช้บริการกว่า 1 ล้านคน ได้ขยายสาขาอีก 1 แห่งบนถนนราชพฤกษ์ ช่วงกลางปี 2562 เพื่อรองรับความต้องการและการบริการด้านฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 7,000-10,000 คนต่อเดือน ตั้งเป้าหมายการปรับโฉมแฟลกชิปสโตร์ใหม่จะทำให้มีผู้มาให้บริการเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือไม่ต่ำกว่า 14,000-20,000 คนต่อเดือน ช่วยเพิ่มยอดขายทั้ง 2 สาขาเติบโตไม่ต่ำกว่า 70% จากปี 2562 คาดมีรายได้ 200 ล้านบาท และขยับเป็น 350 ล้านบาท ในปี 2563