เฮเฟเล่ ระบุไทยตลาดศักยภาพโตสุดในเอเชียสวนเศรษฐกิจโลกซบ เดินหน้าขยายตลาด ชูนวัตกรรมกรีนโปรดักท์ ลุยอีคอมเมิร์ซ ตั้งเป้าดันยอดขายแซงอังกฤษ-สหรัฐ ขึ้นเบอร์ 1 โลกใน 5 ปี
นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ และ นายรัตนะ พูนสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันเปิดเผยถึงแผนธุรกิจปี 2563 ว่า มุ่งนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์งานอาคาร โดยเฉพาะสินค้าภายใต้คอนเซปต์ กรีนโปรดักท์ หรือ LEED and WELL standard และ Circular system มากขึ้น พร้อมรักษาช่องทางการขายหลัก ทั้งส่วนงานโครงการ ค้าปลีก และโรงงาน ด้วยความหลากหลายของสินค้ากว่า 25,000 รายการที่พร้อมจัดส่งได้ทันที
ขณะเดียวกัน สร้างความเข้มแข็งสำหรับช่องทางใหม่ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้ารองรับเชนสโตร์กลุ่มร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารภัตตาคาร รวมถึงการผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) ผ่านแพลตฟอร์มของเฮเฟเล่และคู่ค้าในอีคอมเมิร์ซบิสสิเนส หรือวาง 3 กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ได้แก่ รีเทลบิสสิเนส อาทิ กลุ่มร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท, แบงกิ้ง บิสสิเนส ธนาคารต่างๆ เน้นสินค้าตอบโจทย์ทั้งการรักษาความปลอดภัย ระบบต่างๆ ของธนาคาร สุดท้ายกลุ่มร้านอาหาร ให้สินค้ามีแอนตี้แบคทีเรียให้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่มีการสะสมเชื้อโรค เป็นต้น
เฮเฟเล่ ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายยอดขายปีหน้า 4,200 ล้านบาท เติบโต 5% ปัจจุบัน เฮเฟเล่ ประเทศไทย มียอดขายเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ของเอเซีย รองลงมาคือเฮเฟเล่ อินเดีย และเฮเฟเล่ เวียดนาม ในระยะยาว ต้องการผลักดันยอดขาย เฮเฟเล่ ไทยแลนด์ ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเฮเฟเล่ทั่วโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2567 แซงหน้า อังกฤษ ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 2 มูลค่ายอดขาย 4,400ล้านบาท และสหรัฐ อันดับ 1 ด้วยยอดขาย 7,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน เฮเฟเล่ ทั่วโลกมียอดขายกว่า 1,400ล้านดอลลาร์
สำหรับปี 2562 นี้ คาดการณ์ยอดขายเฮเฟเล่ 4,000 ล้านบาท เติบโต 12% เป็นยอดขายจากกลุ่มรีเทล 40% กลุ่มโปรเจค 40% โรงงานอุตสาหกรรม/เฟอร์นิเจอร์ 20% ซึ่งทำการตลาดกลุ่มสินค้า แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ประตู-หน้าต่าง 41% Furniture fitting 24% สุขภัณฑ์17% เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว 11% อื่นๆ 7%
“ธุรกิจเฮเฟเล่ ประเทศไทยเติบโตสูงสวนกระแสเศรษฐกิจซบเซาทั้งในเอเชียและตลาดโลก เป็นผลจากการสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ซึ่งปีหน้าจะเน้นไปที่การเจาะกลุ่มเชนสโตร์ พัฒนาสินค้าให้เหมาะกับการใช้งานยิ่งขึ้น”
ที่ผ่านมา เฮเฟเล่ ประเทศไทย ได้มีการลงทุนครั้งใหญ่ในการขยายคลังสินค้าที่ศูนย์กระจายสินค้า บางนา ตราด เพิ่มพื้นที่จาก 10,000 ตร.ม. เป็น 24,000 ตร.ม. ทำให้มีความสามารถรองรับสินค้าคงคลังได้มากขึ้น สต๊อกสินค้ามากกว่า 25,000 รายการ สำหรับกระจายไปยัง 6 โชว์รูมทั่วประเทศได้แก่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 64 บางโพธิ์ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต และเชียงใหม่ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ปัจจุบันเฮเฟเล่ มีสินค้าทำตลาด 4 กลุ่มหลัก กลุ่มอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อาทิ อุปกรณ์ประตู-หน้าต่าง กลุ่มอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มสินค้าสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ขณะเดียวกัน ยังมีหมวดสินค้าย่อย เช่น กลุ่มสินค้าอะลูมิเนียม ประตูบานเลื่อนภายนอกและภายในอาคาร, หิน Caesar stone, อุปกรณ์แสงสว่างไฟแอลอีดี, ผนังบานเลื่อนแบบจัดเก็บMoveable wall, เครื่องมือช่าง Hand tools