“สันธิญา” รีสอร์ทชูอีโค่ เทรนด์ไม่เคยผันผวนตามเศรษฐกิจ

“สันธิญา” รีสอร์ทชูอีโค่ เทรนด์ไม่เคยผันผวนตามเศรษฐกิจ

จุดยืนที่ชัดของสันธิญา รีสอร์ท แอนด์สปา ที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมกับอัตลักษณ์เรือนไม้ทรงไทย กลายเป็นจุดขายเรื่องเล่าตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีกำลังซื้อ ไม่ว่าเศรษฐกิจผันผวน เงินบาทแข็งค่า นักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติยังคงมาเยือน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือที่คนในอุตสาหกรรมเรียกว่ารางวัล กินรี เครื่องหมายมาตรฐานที่เป็นการประกันคุณภาพสินค้าที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2539 โดยในปี 2562 หรือครั้งที่ 12 มีผู้รับรางวัลทั้งหมด 88 รางวัลในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา 

โดยเกณฑ์การพิจารณาจะมุ่งเน้นการให้รางวัล การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ และพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับสภาพสังคม แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทย ให้สอคดล้องกับความต้องการ และสร้างความน่าเชื่อถือ ได้รับความไว้วางใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

 สันธิญา รีสอร์ท แอนด์สปา หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับรางวัลกินรี ปี 2562 และได้รับรางวัลรวมแล้วกว่า 5 รางวัล ด้วยความเด่นของที่พักเรือนไม้สักที่เป็นอัตลักษณ์บนเกาะ สไตล์ความเป็นธรรมชาติ ทุกอย่างล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Friendly) เช่น เนื้อที่รีสอร์ทบนเกาะพงันมีถึง 44 ไร่ แต่ใช้พื้นที่จริงเพียงแค่ 1 ใน 5 ของพื้นที่ บวกกับการบริหารจัดการที่ไม่มีถุงพลาสติกในรีสอร์ท จึงได้รับรางวัลไปแล้วถึง 5 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดปี 2562 ได้รับรางวัลประเภท Pool Villa beach resort

 แดนนี่ สุโกมล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท สันธิญา รีสอร์ท แอนด์สปา เล่าถึงจุดยืนของการพัฒนาโรงแรมและรีสอร์ทอย่างยั่งยืน บทสะท้อนที่คืนกลับมาเป็นมูลค่า ไม่ใช่เพียงรางวัลที่การันตีถึงมาตรฐานที่ทำให้ธุรกิจที่มีจุดยืน ที่ทำให้โรงแรมได้รับการยอมรับในด้านความเป็นโรงแรมสีเขียวจะสร้างมูลค่าได้สูงกว่าโรงแรมทั่วไป

เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าปั่นป่วนการเติบโตเศรษฐกิจในหลายประเทศ รวมไปถึงปัญหาค่าเงินบาท เป็นเกาะป้องกันวิกฤติได้ จะเห็นได้จากอัตราการเข้าพักของโรงแรมยังอยู่ที่ 80-90% นี่คือบทสะท้อนคัดกรองลูกค้าคุณภาพที่ต้องการความสงบ ส่วนตัว ที่พักแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ท่ามกลางวิกฤติจึงนักก็ไม่ลดลง หากมีโรงแรมมีความสไตล์ชัดเจน มีอัตลักณ์เฉพาะ (Unique)ที่มีความเป็นไทยผสมผสานกับการบริหารจัดการเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนจึงเกิดขึ้น

เมื่อสไตล์ของรีสอร์ทชัดเจน ตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วก็มาซ้ำอีก และไม่ลดลงเลยแม้ค่าเงินบาทแข็งค่า เมื่อวางแผนการท่องเที่ยวไว้ยังไงก็มา”

157578967540

*แดนนี่ สุโกมล*

 นักท่องเที่ยวที่มาพักในรีสอร์ท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมีชื่อเสียง ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และผู้บริหารองค์กร จากประเทศยุโรป สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวลดลง เพราะตลาดมีการกระจายตัวไม่พึงพิงนักท่องเที่ยวชาติใดเป็นหลัก โดยลูกค้าอันดับ1 มาจากประเทศเยอรมันมีสัดส่วนเพียง 15%รองลงมาคืออังกฤษ 12%และตามมาด้วย ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ สัดส่วนต่ำกว่า 10%รวมไปถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ค สวีเดน กระจายสัดส่วนไปเท่าๆ กัน

 “ตลาดกระจายตัวจึงกระจายความเสี่ยง ไม่เหมือนบางแห่งที่เน้นพึ่งพานักท่องเที่ยวในช่วงที่จีนสัดส่วนมาก เมื่อจีนหายไปก็ทำให้จำนวนักท่องเที่ยวลดลงไปมากจนแทบไม่มีแขก ซึ่งในรีสอร์ทสันธิญาจับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงไฮด์เอนด์ จึงบินมาทุกช่วงไฮซีซันมีตลาดใหม่เข้ามาต่อเนื่อง โดยปีนี้มีกลุ่มอิสราเอล และอเมริกา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

 

 

ความท้าทายของการทำโรงแรมที่มุ่งเน้นด้านความยั่งยืน ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ คือการบริหารจัดการภายในด้วยระบบคนทำงานซึ่งเน้นฝีมือความประณีตเป็นหลัก ตั้งแต่ก่อสร้าง ด้วยคนงานก่อสร้างเรือนไม้สักทั้งหลัง และการดูแลรักษา ที่จะต้องทำความสะอาดด้วยมือเกือบทุกวัน

“เมื่อมีแขกมาพักเราต้องให้คนงานเข้าไปทำงานพร้อมกัน 4 คน คนสวนหนึ่ง สระน้ำหนึ่งคน และในเรือนอีก 2 คน ไม่งั้นไม่ทัน เพราะสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยต้นไม้ ป่าไม้เป็นหลัก มีความใกล้ชิดธรรมชาติ จึงตามมาด้วยงู และยุง ก็ต้องมีการบำบัดและดูแลด้วยวิธีการทางธรรมชาติ”

สิ่งสำคัญที่เป็นจุดยืนของโรงแรมคือการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ในรีสอร์ทจึงไม่มีการใช้ถุงพลาสิตก ขวดผลิตภัณฑ์ชำระล้างใช้แบบขวดแก้วและเติมเป็นหลัก ใช้หลอดกระดาษแทนหลอดพลาสติก รวมไปถึงพืชผักสวนครัวในรีสอร์ท ที่เป็นเป็นออแกนิก อาหารไทย อิตาเลียน และอาหารนานาชาติ

การเพิ่มความใส่ใจรายละเอียดเช่นนี้ไม่เพียงส่งผลการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เน้นตลาดคุณภาพเป็นหลัก แต่ราคายังสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นจากโรงแรม 5 ดาวในบริเวณใกล้เคียงได้มากกว่า 20%ห้องพูลวิลล่า ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อห้อง

แผนการตลาดของสันธิญา ก็แตกต่างจากทั่วไปตรงนี้มุ่งเน้นความสำคัญของกลุ่มเอเจนซี ซึ่งได้รับการยอมรับเชื่อถือในการการันตีถึงโรงแรม จึงให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมงานโรดโชว์พบปะลูกค้า ผ่านการเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยวไปทั่วโลก เฉลี่ยเดือนละ1-2 ครั้ง เป็นจุดสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ จนนำไปสู่การยอมรับในแบรนด์

“สันธิญา มีชื่อในโบรชัวร์ของงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวทุกปี แต่ก็ยังต้องมาเพื่อสร้างเครือข่าย เชื่อมความสัมพันธ์ ทำให้ร่วมมือพูดคุยวางแผนการตลาด แม้เทคโนโลยีจะไปไกล มีการซื้อขายผ่านออนไลน์ แต่ตลาดยุโรป การตัดสินใจซื้อ ยังต้องการการบริการจากคนจึงจะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า” เขากล่าวถึงเทคนิคการตลาดที่ทำให้ได้ลูกค้าคุณภาพทั้งลูกค้าเก่ากลับมาซ้ำ และการออกงานแฟร์ยังเป็นการเพิ่มลูกค้าใหม่

สิ่งที่ทำให้สันธิญา แตกต่างจากโรงแรมทั่วไปคือการขายเรื่องราวของเกาะ และการใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะใช้เนื้อที่ทำที่พักเพียง 1 ในห้าของพื้นที่ ส่วนใหญ่พื้นที่จึงแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติเป็นหลัก

ปัจจุบันสันธิญา รีสอร์ท แอนด์สปา ขยายธุรกิจเป็น 4 แห่ง เริ่มตั้งแต่เกาะพงัน ,เกาะยาวใหญ่ และเกาะช้าง ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปแห่งที่ 4 ที่นาใต้ จ.พังงา

จากความนิยมของรูปแบบรีอสร์ทที่มีความเป็นธรรมชาติ เรือนไม้ทรงไทย ทำให้แขกเข้าพักในอัตราที่สูงและมีการขยายรองรับในพื้นที่เกาะอื่นๆ และนาใต้เป็นสาขาแรกที่ไม่ได้อยู่บนเกาะ