คาดชาวจีนเที่ยวไทย โตปีละ 5-7% ใน 10 ปีข้างหน้า
อีก 10 ปีข้างหน้า การท่องเที่ยวไทยก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การคมนาคมและความหลากหลายพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ และแนวโน้มคือกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าจะโตปีละ 5-7% ทีเดียว
การท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โดย 60% ของรายได้ท่องเที่ยวมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เม็ดเงินท่องเที่ยวกระจุกอยู่ที่กรุงเทพ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 41%, 40% และ 14% ตามลำดับ
สำหรับภาคตะวันออกมีรายได้ท่องเที่ยว 95.7% มาจาก 5 เมืองหลักและรอง ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด โดยการท่องเที่ยวมีแนวโน้มคึกคักมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและรถไฟความเร็วสูงเชื่อมจากกรุงเทพ
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่สร้างรายได้เข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 คือ จีน โดยในช่วง ม.ค.-ต.ค. ปีนี้มีชาวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยจำนวน 9.34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และใช้จ่ายสะพัดไปสู่ธุรกิจต่างๆ มูลค่า 4.67 แสนล้านบาท เติบโต 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
Krungthai COMPASS คาดว่า ในช่วง 10 ปีนับจากนี้ ชาวจีน จะออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.9% หรือเพิ่มเป็น 334 ล้านคน ในปี 2030 จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 160 ล้านคน ตามกำลังซื้อของชาวจีนที่จะยังคงเพิ่มขึ้น และสัดส่วนชนชั้นกลางที่จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งตอนนี้ชาวจีนที่มีหนังสือเดินทางยังมีสัดส่วนน้อยแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันทางการจีนมีแผนเพิ่มสนามบินเพื่อรองรับการเดินทางที่มากขึ้น
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่น่าจับตา คือ ชาวจีนกลุ่ม Millennials หรือ Gen Y โดยคนจีนที่เที่ยวต่างประเทศที่เกิดในช่วงปี 1980-2000 คิดเป็นสัดส่วนถึงราว 80% ของคนจีนที่เที่ยวต่างประเทศทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีกำลังซื้อพร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และชื่นชอบการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหน้าใหม่จากกลุ่มที่อายุ 10-19 ปีในปัจจุบันอีกราว 33 ล้านคน
Krungthai COMPASS คาดว่า ชาวจีนเดินทางมาเที่ยวในไทยแตะ 23 ล้านคน ในปี 2030 เพิ่มขึ้นปีละ 5-7% จากปัจจุบันที่มีราว 11 ล้านคน โดยมีแรงหนุนสำคัญ คือ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความท้าทายจากการแข่งขันกับประเทศอื่นก็ตาม
แม้กรุงเทพ และเมืองหลัก เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ยังเป็นปลายทางยอดนิยมของชาวจีนที่เดินเข้ามาท่องเที่ยวและพักค้างคืนในไทย อย่างไรก็ดี เมืองรองก็เริ่มมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก อาทิ จ.ตราด มีชาวจีนที่มาเที่ยวพักค้างคืนเติบโตเฉลี่ยที่ 56% ต่อปี (CAGR ปี 2558-2561) ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวในพื้นที่กรุงเทพค่อนข้างมาก
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยว จ.ตราด ในปี 2561 พบว่า มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติจำนวน 2.18 ล้านคน และมีรายได้ 1.93 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 24% โดยนักท่องเที่ยวจากเยอรมนีเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ รัสเซีย จีน อังกฤษ และสวีเดน ตามลำดับ โดยสิ่งที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวจีน เติบโตสูงสุด 42.5%
การดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวเมืองรองในเขตอีอีซีและภาคตะวันออกนั้น การเดินทางอาจไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เนื่องจากมีเส้นทางเชื่อมจากเมืองหลักที่ดีอยู่แล้ว หรือแม้แต่แหล่งท่องเที่ยว ก็มีความหลากหลายพร้อมอยู่แล้ว แต่ประเด็นที่ท้าทาย คือ เรื่องของความปลอดภัย เพราะเป็นปัจจัยที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญ ลำดับต้นๆ ในการตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวไทยเคยได้รับบทเรียนมาแล้วจากอุบัติเหตุเรือล่มที่เกิดขึ้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปีที่แล้ว