'ทูตพาณิชย์' ชี้ฮ่องกงสนนำเข้าหมูเพิ่ม
อหิวาต์หมูระบาดในจีน ทำฮ่องกงเฟ้นแหล่งนำเข้าใหม่ ประสานทูตพาณิชย์ไทยแนะนำผู้ประกอบการเพื่อส่งออกหมูไทยไปฮ่องกง แนะเข้มคุณภาพหวังวางแผน ทำตลาดระยะยาว
รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) เมืองฮ่องกง เปิดเผยว่า หลังฮ่องกงประสบปัญหาพบโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (African Swine Fever) นับตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 จากการนำเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่
ข้อมูลช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮ่องกงบริโภคหมูจำนวน 1.5 ล้านตัว และนำเข้าหมูมีชีวิตจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าไปฮ่องกงประมาณ 4,000 ตัวต่อวัน แต่ปัจจุบันฮ่องกงนำเข้าจากจีนลดลง คงเหลือจำนวน 1,324 ตัวต่อวัน (ล่ำสุด 9 ธ.ค.2562) ขณะที่การนำเข้าหมูมีชีวิตโดยหน่วยงาน The Food & Health Bureau มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และร่วมมือกับหน่วยงาน Customs and Excise Department ในการป้องกันประเทศ ที่พบการแจ้งเนื้อหมูที่เกิดโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรไม่ให้นำเข้าไปยังฮ่องกง
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนหมูในฮ่องกง จึงความพยายามนำเข้าจากหลายประเทศ สำหรับการนำเข้าจากไทย ดำเนินการโดยผู้นำเข้ารายใหญ่ของไทยในฮ่องกง ได้แก่ Betagro และ CPF เป็นต้น เพราะเชื่อถือเรื่องความปลอดภัย คุณภาพที่ไม่พบโรคอหิวาต์
อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงพยายามแก้ปัญหาการขาดแคลนเนื้อหมู โดยหาแหล่งนำเข้าสินค้าจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากภูมิภาคนี้มีแนวโน้มการผลิตเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกจากไทย พบว่าในเดือน ส.ค.2562 การส่งออกเนื้อหมูของไทยไปฮ่องกงเพิ่มขึ้น 40% ตามข้อมูลจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย
"เมื่อความต้องการเนื้อหมูที่ขาดแคลนเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้นำเข้าฮ่องกงได้ประสาน สคต.ฮ่องกง ในการแนะนำผู้ประกอบการไทยเพื่อส่งออกเนื้อหมูมายังฮ่องกง"
แม้สถานการณ์ในฮ่องกงจะน่าเป็นห่วง แต่ก็นับเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของไทย แต่เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นการนำเข้าสินค้าจากไทย หน่วยงานที่ออกใบอนุญาตการนำเข้า จะต้องมีข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่ายระหว่าง หน่วยงานรับผิดชอบด้านปศุสัตว์ไทยและฮ่องกง เพื่อสามารถส่งออกไปฮ่องกง ทั้งในระยะสั้นช่วงที่มีปัญหาขาดแคลน และการสร้างโอกาสตลาดส่งออกในระยะยาวด้วย