สำรวจ 'สื่อไทย' ได้โบนัส-ปรับเงินเดือนเท่าไร?

ถึงคราวขององค์กรสื่อสารมวลกันแล้ว หลังจากที่ฟากฝั่งภาคเอกชนทยอยประกาศแจกโบนัส หรือเงินพิเศษ แถมบางองค์กรปรับขึ้นเงินเดือนกันไปก่อนช่วงปีใหม่ ให้พนักงานได้ตื่นเต้นพอหอมปากหอมคอกันหน่อยๆ ช่วงหยุดพักส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่วนด้านสื่อมวลชนยังคงทำงานขะมักเขม้นกันแม้คืนข้ามปี

หากจะถามถึงรายได้สื่อว่าเป็นไปในทิศทางใด พูดกันตามตรง สถานการณ์สื่อไม่สู้ดีนักมาสักระยะแล้ว เนื่องด้วยปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงยุคดิจิทัลมาเร็ว มาแรง ดิสรัปธุรกิจสื่อไม่เลือกหน้า ทั้งค่ายใหญ่ เล็ก ต่างโดนกันถ้วนหน้า การประคองตัวให้อยู่รอดว่ายากแล้ว แต่การปรับตัวรับสิ่งใหม่ พัฒนาสิ่งเก่าให้เท่าทันยุคสมัยคงจะยากกว่า สะท้อนจากการเกิดขึ้นของธุรกิจหน้าใหม่ๆ และการล้มหายตายจากของธุรกิจสื่อเก่า

จากที่เกริ่นมาเริ่มต้น หลายคนคงอยากรู้ว่าสื่อที่ทำงานแทบไม่มีวันหยุด นักข่าว-พนักงานในองค์กรธุรกิจนี้ ได้โบนัสเท่าไรกันบ้าง หรือปรับขึ้นเงินเดือนหรือไม่ "สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์" ได้รายงานว่า จากการสำรวจของเพจจุลสารราชดำเนิน ได้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ สถานีโทรทัศน์ดิจิทัล และสื่อสิ่งพิมพ์

โดยฝั่งสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล สมาคมนักข่าวฯ ระบุว่า ปัจจุบันมีสถานีลดลง เพราะมีการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ทั้งหมด 7 ช่อง แม้การแข่งขันจะไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาไม่มากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้รายได้และกำไรก็ยังคงไม่กระเตื้อง แน่นอนว่าต้องกระทบต่อไปถึงสวัสดิการของพนักงานฝ่ายต่างๆ

เริ่มที่ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในเครือบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ในปี 2562 มีข่าวว่าไม่มีการให้โบนัสพนักงาน และฝ่ายข่าวช่อง 3 นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นเงินเดือน

มาต่อที่ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ภายใต้บริษัท กรุงเทพวิทยุและโทรทัศน์ จำกัด มีข่าวว่าปีนี้มีแจกโบนัส เบื้องต้นไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือน รวมถึงมีการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนด้วย ส่วน ช่อง 8 ในเครือบริษัท อาร์เอสวิชั่น จำกัด ยังคงรอลุ้นช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นที่รู้กันของพนักงาน ว่าจะมีโบนัสหรือพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนหรือไม่ โดยเมื่อปี 2561 มีการจ่ายโบนัสราวเดือนครึ่ง ลดลงจากปี 2560 ที่จ่ายโบนัส 2 เดือน

ขณะที่ ช่อง 9 MCOT HD สถานีในเครือบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ยังไม่มีการจ่ายโบนัส แต่มีข่าวดีของพนักงานและฝ่ายข่าว ที่ได้รับแจ้งว่า ปี 2563 จะมีการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือน โดยจะพิจารณาจากการประเมินผลงานของพนักงาน และฝ่ายข่าว เป็นรายบุคคล

ตามติดๆ มาด้วย ไทยรัฐทีวี ที่ปีนี้จะเป็นปีแรกตั้งแต่เริ่มเปิดสถานีมาราว 6 ปี ที่พนักงาน ฝ่ายข่าว และกองบรรณาธิการไทยรัฐทีวี ได้รับสัญญาณแจงอย่างไม่เป็นทางการ ว่าจะมีโบนัส เบื้องต้นน่าจะได้คนละไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากผลการประเมิน KPI ที่ผู้บริหารไว้วางเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้า แต่ขณะนี้ผู้บริหารรอดูสรุปผลประกอบการอย่างเป็นทางการเสียก่อน และน่าจะประกาศภายในเดือนมกราคมนี้ และยังมีข่าวว่าอาจมีการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนด้วย แต่น่าจะเป็นช่วงไตรมาส 2

ส่วน "ย่านบางนา" อย่างค่าย "เนชั่น" โดย บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (เนชั่นทีวี) ก็สามารถพลิกฟื้นจากช่วงมรสุมถาโถมกลับมามีแนวโน้มทางธุรกิจที่เป็นบวก และประกาศจ่ายโบัสให้กับพนักงาน 1 เดือนเต็ม พร้อมมีการปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานตาม KPI

ด้าน สถานีข่าว TNN ของบริษัทไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด ในเครือบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่กอง บก.ได้รับสัญญาณว่า จะมีการให้โบนัสกับพนักงาน ฝ่ายข่าว และรูปแบบการพิจารณาน่าจะคล้ายๆ ปีก่อนหน้า ด้วยการพิจารณาจากผลงานและการประเมิน ส่วนเรื่องการปรับขึ้นเงินเดือน ข่าวบอกว่าอาจมี แต่ต้องรอสัญญาณจากผู้บริการช่วงปลายเดือนมกราคม

ส่วน สถานี PPTV หนึ่งในธุรกิจในเครือของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ขณะนี้พนักงานและฝ่ายข่าว ต่างรอลุ้นว่ามีได้โบนัสหรือไม่ จากปีที่ผ่านมามีการให้โบนัสขวัญถุงแบบเหมาจ่ายคนละ 10,000 บาท ซึ่งให้ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี ปิดท้ายด้วย สถานีโทรทัศน์ MONO29 ของบริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด เบื้องต้นก็มีข่าวว่ามีการจ่ายโบนัสให้พนักงานและฝ่ายข่าวไปแล้วช่วงสิ้นปี โดยได้คนละไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือน

สมาคมนักข่าวฯ ได้รายงานถึงธุรกิจสื่อสื่งพิมพ์ เริ่มที่ เครือเนชั่นกรุ๊ป ปีนี้มีการจ่ายโบนัสให้กอง บก. และฝ่ายข่าวบางส่วน โดยเรียกว่าเป็นเงินตอบแทนพิเศษและเงินขวัญถุง ให้ตามผลประกอบการของสื่อแต่ละแพลตฟอร์ม โดยหน่วยงานที่ได้กำไรอย่าง กรุงเทพธุรกิจ ได้ค่าตอบแทนพิเศษ 100% ของเงินเดือน เช่นกันกับธุรกิจทีวี ในนาม "เนชั่นทีวี" ซึ่งประกาศจ่ายโบนัส 100%

ส่วนหน่วยงานที่ผลประกอบการยังไม่ได้กำไร เช่น คมชัดลึก ได้คนละ 5,000 บาท เป็นแบบเหมารวม ซึ่งจ่ายพร้อมเงินเดือนช่วงมกราคม

แม้ในประกาศบริษัทเรื่องการจ่ายเงินตอบแทน จะระบุตอนหนึ่งว่า ภาพรวมบริษัทยังมีผลประกอบการขาดทุน แต่ก็มีสัญญาณว่ามีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ทำให้บางธุรกิจมีกำไรและเสมอตัว สอดรับที่ ฉาย บุญนาค ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ได้เปิดเผยก่อนหน้าว่า หนี้ของเครือเนชั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 200 ล้านบาท จากเดิมเมื่อสองปีที่แล้วอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท

ด้าน เดลินิวส์ ปีนี้ได้รับโบนัส 75% ของเงินเดือน และเป็นการจ่ายแบบเหมาะรวม ได้เท่ากันหมดทุกคน ส่วนการปรับขึ้นเงินเดือน เป็นที่รู้กัรนว่าจะต้องรอฟังสัญญาณหลังวันที่ 22 มีนาคม 2563 เนื่องจากเป็นวันเกิดของหนังสือพพิมพ์ โดยปกติผู้บริหารจะมีการพิจารณาช่วงเดือนเมษายน และจะพิจารณาเสร็จสิ้นเดือนพฤษภาคม และจะมีผลช่วงกลางปี หรือเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม

ไทยรัฐ ซึ่งถือเป็นกอง บก. (ไม่เกี่ยวกับไทยรัฐทีวีและไทยรัฐออนไลน์) ที่จ่ายโบนัสให้กับพนักงานมากที่สุดในกลุ่มหนังสือพิมพ์ ในปีนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณการจ่ายโบนัส ปกติจะจ่ายพร้อมเงินเดือนรอบสุดท้ายของปี ทำให้นักข่าวบางส่วนเริ่มเชื่อว่าคงจะไม่ได้รับโบนัสกันแล้ว

ขณะที่ เครือมติชน ทั้งมติชนรายวัน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ เบื้องต้นมีข่าวว่า พนักงานได้รับแจ้งเป็นการภายในว่าให้รอประกาศผลประกอบการก่อน คาดว่าน่าจะมีการให้โบนัสช่วงเดือนมีนาคม จากช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับโครงสร้างเงินเดือน และค่าตอบแทนให้กับพนักงานฝ่านข่าวในเครือแล้วหนึ่งรอบ จึงคาดการณ์ว่าปีนี้อาจยังไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือน ด้าน ไทยโพสต์ สำหรับปีนี้ได้แจกโบนัสให้พนักงานและกอง บก.ทุกคน คนละ 50% ของเงินเดือน

ฟากเครือ Bangkok Post เช่น หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ ปีนี้ไม่มีการให้โบนัส และไม่มีสัญญาณปรับขึ้นเงินเดือน แต่เริ่มผ่อนคลายมาตรการการรัดเข็มขัด เช่น การเปิดรับนักข่าว ทั้งสายเศรษฐกิจ และการเมือง ตั้งแต่ช่วงต้นปี เช่นเดียวกับ สยามรัฐ ที่ไม่มีการให้โบนัสและปรับขึ้นเงินเดือน

นอกจากนี้ แนวหน้า ที่ไม่มีโบนัสและสัญญาณของการปรับขึ้นเงินเดือน จากปีที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างเงินเดือนกอง บก.ข่าวทั้งหมดไปแล้ว และยังคงมีมาตรการรัดเข็มขัด เช่น ตัดงบค่าอาหารที่ทำเลี้ยงกอง บก.ข่าวออกไป

ปิดท้ายที่ เครือผู้จัดการ ที่ยังไม่มีการจ่ายโบนัสให้กอง บก.ข่าว ทั้งสิ่งพิมพ์และออนไลน์ และไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นเงินเดือน ซึ่งเป็นสภาพแบบนี้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว