SVI - ถือ
ประมาณการ 4Q62: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ
Event
ประมาณการ 4Q62 และปรับเพิ่มคำแนะนำ
lmpact
ประมาณการ 4Q62: คาดว่ากำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SVI ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 80 ล้านบาท (-62% YoY, -27% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิปี 2562 อยู่ที่ 424 ล้านบาท (-47% YoY) คิดเป็น 92% ของประมาณการกำไรปี 2562 ของเรา ทั้งนี้ เราคาดว่าผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในไตรมาสสุดท้ายจะมาจากยอดขายที่ทรงตัว (126 ล้านดอลลาร์) และอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอ (6.7% ใน 4Q62F จาก 7.2% ใน 3Q62) จากการแข็งค่าของเงินบาท
คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q63 ก็จะยังลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SVI ใน 1Q63 จะยังคงลดลงทั้ง YoY และ QoQ (จากผลกระทบของค่าเงินบาท) ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น QoQ ในไตรมาสต่อ ๆ ไป (2Q63-4Q63) ทั้งนี้ เนื่องจากเราคาดว่าธุรกิจอยู่ในขาขึ้น เราจึงเชื่อว่าคำสั่งซื้อของ SVI จะเพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เราจึงยังคงสมมติฐานยอดขายปี 2563 เอาไว้ที่ 566 ล้านดอลลาร์ (คิดเป็นอัตราการเติบโตของยอดขายที่ ~9%) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 7.1% เรามองว่า upside ของกำไรจะมาจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดและการลดสัดส่วนต้นทุนการเก็บสต็อกที่อยู่ในระดับสูงลง ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ
1% จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 30%
ผู้ถือหุ้นใหญ่เปลี่ยนไปหลังการทำ tender offer
SVI รายงานว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังจากที่คุณพงษ์ศักดิ์ โล่ทองคำทำ tender offer และกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โดยถือหุ้นรวม 1,561 ล้านหุ้น (~73% ของสิทธ์ิในการออกเสียง)
Re-rate PER เพื่อสะท้อนวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจ
เรา re-rate PER จากเดิมที่ 15.5x (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +0.25 S.D.) เป็น 16.5x (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +0.5 S.D.) เพื่อสะท้อนถึงการฟื้นตัวของกำไรจากวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจ ซึ่งทำให้ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2563 ใหม่ที่ 3.70 บาท ทั้งนี้ ราคาหุ้น SVI ปรับลดลงอย่างมากถึง ~50% หลังจากที่เราปรับลดคำแนะนำเป็นขายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 แต่เนื่องจากราคาตลาดเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายใหม่ของเราอีก 9.1% ในขณะที่แนวโน้มธุรกิจก็เป็นบวก ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ขาย เป็น ถือ
Valuation & Action
เราปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น SVI เป็น "ถือ" และให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2563 ที่ 3.60 บาท อิงจาก PER ที่ 16.5x (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +0.5 S.D.) เราแนะนำให้จับตาดูผลประกอบการ 1H63 ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไร
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิ ดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานค่าเงินบาทปี 2562 ที่ 30.80 บาท/US$ และปี 2563 ที่ 30.30 บาท/US$) และความล่าช้าของกระบวนการทดสอบสินค้า