"พราวเรียลเอสเตท" ช็อตคัท ลุยเทคโอเวอร์คอนโดโลว์ไรส์
“พราวเรียลเอสเตท” เท 200 ล้าน เล็งเทคโอเวอร์คอนโดโลว์ไรส์ เร่งดันรายได้ธุรกิจเรสซิเดนท์ ขณะ“อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน" แบ่งเฟสทดลองตลาด อั้นราคาขาย 1.9 -3 แสนบาทต่อตร.ม. คาดกลางปีปิดยอดขาย 1,000 ล้านบาท
นายไพสิฐ แก่นจันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการที่กลุ่มพราว ของตระกูลลิปตพัลลภได้ เข้าตลาดหลักทรัพย์ แบบ Backdoor Listing บมจ. โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น (FOCUS) เมื่อกลางปี 2562 จึงยังไม่มีรายได้ เนื่องจากการพัฒนาโครงการใหม่ต้องใช้เวลา ฉะนั้นในปีนี้จึงมีแผนซื้อโครงการคอนโดโลว์ไรส์ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัททันที โดยมีผู้ประกอบการติดต่อเข้ามา 3-4 โครงการเข้ามามีทั้งพัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ อยู่ระหว่าการเจรจา คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท
“เหตุผลที่ต้องใช้วิธีการซื้อโครงการมาทำต่อ เนื่องจากต้องการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นทันที เพราะโครงการแรกของ พราว เรียล เอสเตท คือโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน มูลค่า 3,500 ล้านบาท เนื้อที่ 7 ไร่เศษ มี 238 ยูนิตต้องใช้เวลาอย่างน้อย2 ปีกว่าจะสามารถรับรู้รายได้ปลายไตรมาส 4ปี 2564 ”
สำหรับโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส จะแบ่งการขายออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มปลายเดือนก.พ. นี้ ในระดับราคา 1.9 -3แสนบาทต่อตร.ม. ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง มีจำนวน70-80 ยูนิต หรือคิดเป็น1 ใน3 ของโครงการ คาดกลางปีจะปิดยอดขาย1,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นระดับราคาขายที่ถือว่า คุ้มค่าที่สุดในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ เพราะหากในภาวะเศรษฐกิจดี ระดับราคาพุ่งสูงขึ้นเป็น 2.5แสนบาทต่อตร.ม
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นที่พักอาศัยแห่งแรกของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ระดับโลกอย่าง อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก รวมยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด ‘More Than Just Living’ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน จึงเป็นโครงการที่รวบรวมไว้ซึ่งองค์ประกอบที่ดีที่สุดในทุกมิติ เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยและบริการพิเศษที่เทียบเท่ากับการพักผ่อนในโรงแรมหรู แต่เหนือกว่าด้วยความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมทั้งเชื่อมโยงผู้พักอาศัยทุกเจเนอเรชั่นให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกัน
นอกจากนี้ ลูกบ้านยังจะได้สิทธิพิเศษในการใช้บริการจาก 5,800 โรงแรมในเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป ทั่วโลก ผ่านการเป็นสมาชิก ไอเอชจี รีวอร์ด แพลตทินัม อีลีท เมมเบอร์ชิป และ เอกสิทธิ์ในด้านไลฟ์สไตล์จากการเป็นสมาชิกพราวด์ พริวิเลจ จากธุรกิจในเครือพราวกรุ๊ปและพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วยศูนย์การค้า โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำมากมาย ตลอดจนสิทธิพิเศษในการเข้าใช้บริการ 111 Social Club คาเฟ่สไตล์โคโลเนียลสุดชิค ริมชายหาดที่ตั้งอยู่ติดกับโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน
นางสาวพราวพุธ ยังกล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินงานของโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน กำลังอยู่ในขั้นตอนการขอรับรองการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยมีแผนจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ในปี 2564 โดยจะจัดงานรอบ วีไอพี ในวันที่ 29 ก.พ. – 1 มี.ค. ที่ Gaysorn Urban Resort โดยมีโปรโมชั่น ให้กับลูกค้าที่จองภายในงานจะได้รับสิทธิพิเศษสูงสุด 1,000,000 บาท และยังได้รับ IHG Rewards Club Platinum Elite Membership พร้อมแต้มสะสมสูงสุดถึง 500,000 แต้ม โดยสามารถนำแต้มในบัตรไปแลกรับเอกสิทธิ์ระดับโลก อย่างสิทธิในการเข้าพักที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ตามมหานครชั้นนำ อย่างปารีส ลอนดอน และโตเกียว ฯลฯ
“กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่มีกำลังซื้อ จึงไม่ได้รับผลกระทบกับสภาพเศรษฐกิจ มาตรการของรัฐ การจำกัดสินเชื่อ ส่วนใหญ่สนใจสินค้าในระดับราคาตั้งแต่ 20-30 บาท ทั้งนี้เนื่องจากต้องการซื้อไว้พักผ่อนในครอบครั้งไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร ส่วนกลุ่มคนต่างชาติเป็นสแกนฯ ยุโรป เยอรมัน ที่ต้องการซื้อไว้อยู่หลังรีไรท์ คิดเป็นสัดส่วน20% ”
อย่างไรก็ตาม โครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน มีปัจจัยส่งเสริมหลายด้านที่เป็นจุดแข็ง อาทิ ศักยภาพในด้านการอยู่อาศัยและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งของเมืองหัวหินในฐานะเมืองตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงและสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก หรือ ไทยแลนด์ ริเวียร่า (Thailand Riviera) ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทำให้โครงการฯ ของเราเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางจากทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ