CHG - ซื้อ
โมเมนตั้มเป็นบวกจากการที่ SSO ปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาล
Event
มุมมองต่อบริษัท และประมาณการ 4Q62
lmpact
กำไร 4Q62 จะยังแข็งแกร่ง แม้ถูกกระทบจาก HCC
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CHG ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 153 ล้านบาท (+37.4% YoY, -42.9% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YoY จะเป็นเพราะรับรู้ผลขาดทุนลดลงจากโรงพยาบาลที่เปิดใหม่ (จุฬารัตน์ 304 และ RPC) แต่อย่างไรก็ตาม กำไรจะยังคงลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q62 จะคิดเป็น 21.2% ของประมาณการกำไรปี 2562 ของเราที่ 724 ล้านบาท ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ CHG ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 28.0% จาก 28.1% ใน 4Q61 และ 34.6% ใน 3Q62 เราคาดว่า margin จะลดลงใน 4Q62 เนื่องจาก SSO ประกาศว่าจะลดการจ่าย HCC ใน 4Q62 ลงเหลือ 7,100 บาท (จากเดิม 12,800 บาท) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ HCC ของบริษัท 45 ล้านบาทในงวด 4Q62 ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้ของ CHG ใน9M62 แบ่งเป็น IPD 30%, OPD 31%, SSO 32% และ NHSO 7% ของรายได้รวมของโรงพยาบาล
แนวโน้มของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 และร่วมพัฒน์ฯ (RPC) ดีขึ้น
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของ CHG ถูกกระทบจากโรงพยาบาลใหม่สองแห่ง ได้แก่ จุฬารัตน์ 304 อินเตอร์เนชั่นแนลที่ปราจีนบุรี และร่วมพัฒน์ฯ ที่ฉะเชิงเทรา ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมและพฤศจิกายน 2561 ตามลำดับ โดยใน 3Q62 ทั้งจุฬารัตน์ 304 และ RPC ส่งผลขาดทุนสุทธิมาที่ CHG 12 ล้านบาท ในขณะที่รายได้คิดเป็น 7.3% ของรายได้รวมทั้งเครือของ CHG อย่างไรก็ตาม เรามองว่าของโรงพยาบาลทั้งสองดูดีขึ้น โดยบริษัทคาดการณ์ว่า ทั้งสองโรงพยาบาลจะถึงจุดคุ้มทุนใน 1Q63 สำหรับในระยะต่อไป เราคาดว่า CHG จะเพิ่มความสามารถโรงพยาบาลในเครือ 13 แห่ง เนื่องจาก
i) การรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งในภาคตะวันออกของไทย ii) synergy ของโรงพยาบาลในเครือ iii) ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลที่เพิ่งขยายใหม่ดีขึ้น iv) อานิสงส์จากการที่ SSO ปรับเพิ่มค่ารักษาพยาบาล
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563 ขึ้นอีก 3.3%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของ CHG ในปี 2563 ขึ้นจากเดิมอีก 3.3% เป็น 851 ล้านบาท (+17.5% YoY) โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการปรับประมาณการกำไรปี 2563 คือการปรับเพิ่มค่ารักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานรายหัวขึ้นอีก 9.3% เป็น 1,640 บาท/ราย/ปี ซึ่งจะทำให้รายได้ของ CHG เพิ่มขึ้น 3.2% และทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3% จากประมาณการเดิม ทั้งนี้ รายได้จาก SS ของ BCH คิดเป็น 32% ของรายได้จากโรงพยาบาลทั้งหมดในงวด 9M62
Valuation & Action
เราเชื่อว่าราคาหุ้น CHG สะท้อนปัจจัยลบจากการที่ SSO ลดการจ่ายค่ารักษา HCC ใน 4Q62 ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับในระยะต่อไป เราคาดว่ากำไรปี 2563 จะเติบโตต่อเนื่อง YoY จากการที่ SSO ปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาล เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ที่ 3.10 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%) จากเดิมที่ 3.00 บาท
Risks
การแทรกแซงของรัฐบาล, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองของไทยรอบใหม่, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่