STEC - ซื้อ

STEC - ซื้อ

ประมาณการ 4Q62: backlog ยังแข็งแกร่ง

Event

ประมาณการ 4Q62

lmpact

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q62 จะดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษ

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ STEC ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 337 ล้านบาท (-11.8% YoY,+ 3.9% QoQ) โดยกำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะอัตรากำไรขั้นต้นลดลง ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะไม่ต้องบันทึกความเสียหายจากการดำเนินคดีทางกฎหมาย (65 ล้านบาท) เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท (+15.0% YoY, -8.0% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 5.4% (เท่ากับใน 3Q62 แต่ลดลงจาก 7.8% ใน 4Q61) และคาดว่าสัดส่วน SG&A/ยอดขายจะเพิ่มขึ้นจาก 1.3% ใน 3Q62 เป็น 1.9% เนื่องจากมีค่าที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการยื่นประมูลโครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภา

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 20%

เมื่อสิ้นปี 2562 ยอด backlog ของ STEC อยู่ที่ 8.72 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้มียอดรับรู้รายได้แน่นอนแล้วถึง 91% และ 76% ของประมาณการรายได้ปี 2563 และ 2564 ตามลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากหลาย โครงการจะเร่งเดินหน้า อย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก สายสีชมพู และเหลือง ซึ่งจะทำให้รายได้
รายไตรมาสทรงตัวอยู่ในช่วง 8-9 พันล้านบาท ในขณะที่ backlog ส่วนที่เหลือของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของรัฐบาลอีกประมาณ 2.5 พันล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2563

backlog ใหม่จากการเปิดประมูลโครงการภาครัฐจะทำให้ประมาณการกำไรปี 2564 มี upside เพิ่มอีก

ในระยะสั้น STEC จะได้ backlog เพิ่มจากการขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (3.4 พันล้านบาท) โดยคณะกรรมการ รฟม. ได้อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 และขั้นตอนต่อไปจะเสนอคณะกรรมการ PPP เพื่อแก้สัญญา ก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนการขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (3.8 พันล้านบาท) ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของ รฟม., BTS Group Holdings (BTS.BK/BTS TB)* และ Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)* โดยเราได้รวม backlog ส่วนต่อขยายนี้เข้าไว้ในประมาณการของเราเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ เรายังคาดว่าบริษัทยังจะได้ backlog เพิ่มอีกจาก i) โครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภา (เฟสที่ 1 มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจากผลอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า BBS ได้ยื่นข้อเสนอที่ให้ผลตอบแทนแก่รัฐสูงสุด) ii) โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (มูลค่า 2.34 หมื่นล้านบาท จะเปิด e-bidding ใน 1H63) iii) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (มูลค่า 9.03 หมื่นล้านบาท ภายใต้สัญญาแบบ PPP-Net cost ซึ่งจะเปิดใน 2Q63) และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (มูลค่า 7.74 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะออก TOR ได้ใน 4Q63)

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 21.40 บาท อิงจาก PER ที่25x (PER เฉลี่ยระยะยาว +1 S.D.) ทั้งนี้ เราคิดว่าประเน พรบ. งบประมาณปี 2563 จะส่งผลลบต่อหุ้นในระยะสั้น โดยราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่า PB เฉลี่ยระยะยาว -2 S.D. ซึ่งสะท้อนถึงประเด็นที่ค้างคาอยู่ที่ศาลซึ่งปัจจุบันอยู่
ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุดว่าจะดำเนินคดีต่อหรือไม่ (คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2563) ทั้งนี้ ถ้าหาก BBS consortium ชนะประมูลโครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภาก็จะทำให้ STEC ได้ backlog เฟสแรก 3 หมื่นล้านบาท

Risks

กำหนดการก่อสร้างล่าช้า, ขาดแคลนแรงงาน และค่าวัสดุแพงขึ้น