จังซีลอนดึง 'ดูซี่ดิจิทัลเวิลด์' เสริมทัพ 'ภูเก็ตเดสทิเนชั่น'
ภูเก็ต หนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตลาดศักยภาพของสินค้าและบริการหลายแขนง! ที่เวลานี้ต่างเผชิญ “ปัจจัยเสี่ยง” รอบด้าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลักชาวจีน
ที่อยู่ในระยะฟื้นตัวจากเหตุการณ์เรือล่มเมื่อปี 2561 ขณะนี้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มลดลง! ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเร่งพลิกกลยุทธ์ โดยบิ๊กเพลย์เยอร์ “จังซีลอน” ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางป่าตอง ภูเก็ต เดินหน้าปั้นแม่เหล็กใหม่!! เสริมพลังความเป็น “ภูเก็ต เดสทิเนชั่น” สร้างประสบการณ์ใหม่ดึงดูดลูกค้าและนักท่องเที่ยว
ประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต กล่าวว่า ในปี 2563 ภาคธุรกิจต้องตั้งรับปัจจัยลบต่างๆ ทั้งกำลังซื้อ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความผันผวนของค่าเงินบาท ค่าเงินหยวน ฯลฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวภูเก็ตพอสมควร อย่างไรก็ดี จังซีลอน ยังมีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามา “ป่าตอง” มากกว่า 50% และสัดส่วนโรงแรมกว่า 50% ของทั้งหมดในภูเก็ตอยู่ที่ ป่าตอง นับเป็นตลาดศักยภาพที่ยังมีความคึกคักอยู่ไม่น้อย ปริมาณนักท่องเที่ยวจึงลดลงไม่มากนักเทียบพื้นที่อื่นๆ ขณะเดียวกันยังพบว่า นักท่องเที่ยวอินเดีย มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเข้ามาเป็นตลาดใหม่!
ทั้งนี้ จังซีลอน มุ่งพัฒนา “แม่เหล็กใหม่” ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางของป่าตองและภูเก็ต ล่าสุดร่วมกับพันธมิตร “ดูซี่ ดิจิแล็บ” สร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ หรือ A Leader in Creating New Digital Experiences ผ่านการนำเสนอดิจิทัลอาร์ตล้ำสมัย ภายใต้โปรเจค ดูซี่ ดิจิทัล เวิลด์ (Doozy Digital World) โชว์ดิจิทัลอินเตอร์แอ็กทีฟแห่งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. เปิดตัวเต็มรูปแบบไตรมาส 2 นี้
ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา จังซีลอน ได้ปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้า พร้อมดึงร้านค้าใหม่ แบรนด์ดัง เสริมทัพสร้างความหลากหลาย รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยลงทุนกว่า 100 ล้านบาทพัฒนาโซนร้านอาหารใหม่ “LOVE EAT” ตกแต่งในรูปแบบ Court House with a Touch of Art & Culture Style ผสานธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันบนพื้นที่ราว 4,000 ตร.ม. คัดสรรร้านอาหารนานาชาติ อาทิ Grand Tarboosh, The Alley และ Digital Delicious พร้อมเปิดบริการเดือน เม.ย.นี้
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของจังซีลอน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยในเมืองไทย (Expat) 20% นักท่องเที่ยวต่างชาติ 80% โดยกลุ่มหลักยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย อาทิ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีออสเตรเลีย รัสเซีย แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ปีนี้ ได้จัดสรรงบกว่า 50 ล้านบาท ทำการตลาดเชิงรุกทั้งอีเวนท์ แคมเปญ โปรโมชั่น ไม่ต่ำกว่า “80 อีเวนท์” พร้อมกลยุทธ์ “ไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง” โปรโมทและประชาสัมพันธ์ตรงกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะสื่อออนไลน์แพลตฟอร์มหลักของจีน การโฆษณาในสื่อสนามบิน แมกกาซีนบนเครื่องบิน เช่น กลุ่มสายการบินของจีน แอร์เอเชีย การบินไทย คาเธ่ย์แปซิฟิค บางกอกแอร์เวย์ ร่วมกับเอเย่นทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ Sea Tour, JTB ให้สิทธิพิเศษนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ รวมทั้ง โรงแรมในภูเก็ต และหาดป่าตอง ผ่านแคมเปญ “Enjoy your stay with Jungceylon” แคมเปญร่วมกับ “Matrix Application” สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย
มั่นใจว่า แม่เหล็กใหม่และการตลาดเชิงรุกจะทำให้ลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น 15-20% จากเฉลี่ย 60,000-70,000 คนต่อวัน ในช่วงไฮซีซั่น และ 40,000-50,000 คนต่อวันในช่วงโลว์ซีซัน
**ทุ่ม 300 ล้านปั้น ‘อินเตอร์แรคทีฟอะมิวส์เมนท์’
ประสบการณ์เบื้องหลังในสายงานดิจิทัลกว่า 30 ปี! ของ ดูซี่ ดิจิแล็บ ถูกนำมาใช้สร้างโลกดิจิทัลให้ออกมาสนุกสนาน สัมผัสและเข้าถึงได้จริง ผ่าน “ดูซี่ ดิจิทัล เวิลด์” ที่กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่นแห่งใหม่ของภูเก็ต
รัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูซี่ ดิจิแล็บ จำกัด กล่าวว่าโปรเจกใหญ่ “ดูซี่ดิจิทัล เวิลด์" ลงทุนกว่า 300 ล้านบาท!! เนรมิตทุกพื้นที่ของการจัดแสดงเปิดประสบการณ์ “Interactive Amusement” ให้แก่ผู้ที่เข้าชมได้สัมผัสความสนุก ตื่นเต้น ในโลกของดินแดนเหนือจินตนาการแห่งโลกดิจิทัลอาร์ต ผ่านแนวคิดและคอนเซปต์ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 9 โซน ร้อยเรียงเรื่องราวด้วยการนำเสนอดิจิทัลอาร์ตที่แตกต่างกัน และมีอินเตอร์แอ็กทีฟเฉพาะในแต่ละโซน อาทิ โซน Culture ที่นำเสนอประเพณี วัฒนธรรม และศิลปะของประเทศไทย ในรูปแบบการแสดงแสงสีดิจิทัลที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของโลกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ มีโซน Art, Fashion, Adventure, Games ร้านอาหาร “Digital Delicious” ในรูปแบบดิจิทัลอาร์ตอินเตอร์แอ็กทีฟ คอนเซปต์ “EAT&PLAY” เช่นเดียวกับที่เปิดให้บริการที่โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ โดยได้ใช้เทคนิคการนำเสนอในรูปแบบ 4D Mapping, Multi Touch Screen, Interactive Multi Media ที่ทำให้ทุกวินาทีบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยภาพ แสง สี เสียง กลิ่น รส และสัมผัส เรียกว่าครบทุกอรรถรส! เป็นประสบการณ์ “Interactive Dining Experiences” อย่างเต็มรูปแบบ