Weekly Market Strategy (17 ก.พ.63)
คาดว่าตลาดน่าจะยังพักฐานต่อเนื่อง
มุมมอง SET สัปดาห์นี้: เรายังคงมองแนวโน้มดัชนี SET เป็นกลาง ๆ ในสัปดาห์นี้ เพราะคิดว่าปัจจัยบวกจากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจาก Covid-19 เพิ่มในอัตราที่ลดลง และการที่รัฐสภาไทยผ่านร่างพรบ. งบประมาณปี 2563 จะหักล้างไปกับตัวเลข GDP ใน 4Q1 และแนวโน้มปี 2563 ที่ไม่น่าตื่นเต้น ซึ่งน่าจะทำให้ทั้งเราและนักวิเคราะห์ในตลาดปรับลดประมาณการ EPS ของบริษัทจดทะเบียน และเป้ าดัชนี SET ลง สำหรับในสัปดาห์นี้ เราคาดว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ อย่างเช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม และหุ้นการเงินประเภท non-bank ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการลดดอกเบี้ยน่าจะยังคง outperform ต่อไป
ธีมการลงทุน:
(เป็นกลางกับตลาด) จำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจาก coronavirus เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง โดยในช่วงเย็นวันที่ 16 ภุมภาพันธ์ จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 อยู่ที่ 69,107 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,666 แสดงถึงอัตราการเพิ่มรายวันที่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของตลาดว่าอัตราการติดเชื้อ Covid-19 ผ่านช่วง peak ไปแล้วยังต่ำอยู่ และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็อาจจะยังรอดสถานการณ์ต่อไปก่อนในระยะสั้น
(เป็นลบกับตลาด) แนวโน้ม GDP ที่อ่อนแอจะกดดัน EPS และเป้ าดัชนี SET สภาพัฒน์ฯ จะเปิดเผยตัวเลข GDP 4Q62 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2563 ในเช้าวันนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่าเศรษฐกิจไทยใน 4Q62 จะขยายตัว 2.1% YoY ซึ่งทำให้อัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2562 อยู่ที่ 2.4% สำหรับในปี 2563 เราคาดว่าอัตราการขยายตัวของ GDP จะชะลอตัวลงเหลือแค่ 2.0% เนื่องจากการระบาดของเชื้อ Covid-19 กระทบกับภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่ภัยแล้งก็ส่งผลกระทบกับการบริโภคภาคเอกชน ดังนั้น เราจึงคาดว่าจะมีการปรับลดประมาณการ EPS ปี 2563 ลงอีกหลักจากสิ้นสุดช่วงส่ง
งบ 4Q62 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งตามทฤษฎีแล้วจะไปกดดันดัชนี SET เนื่องจากนักลงทุนในตลาดแทบไม่มีเหตุผลที่จะ re-rate เป้า PER
(เป็นบวกกับตลาด) พรบ. งบประมาณปี 2563 คืบหน้าไปเร็วกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติร่าง พรบ. จากนั้นวุฒิสภาก็อนุมัติร่างในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในขณะนี้ ดูเหมือนว่า พรบ. น่าจะมีผลบังคับใช้ได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการลงทุนภาครัฐ และเศรษฐกิจโดยรวมตั้งแต่ปลาย 1Q63 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เรายังคงคาดว่าหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐจะ outperform ตลาดต่อไป
หุ้นที่เราสนใจ:
เรามองว่าหุ้นที่เชื่อมโยงกับภาครัฐ และหุ้นการเงินประเภท non-bank น่าจะ outperform ต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ จากการที่เรามองว่าดัชนี SET จะพักฐาน และแนวโน้มมหภาคอาจจะดูแย่ลงจากการเปิดเผยตัวเลข GDP เราจึงคิดว่าหุ้น mid-cap น่าจะยัง outperform ต่อไป ซึ่งหลังจากที่สภาผู้แทน
ราษฏรและวุฒิสภาไว้อนุมัติร่าง พรบ. งบประมาณปี 2563 ไปแล้ว ก็คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในปลายเดือนมีนาคม ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม อย่างเช่น STEC*, CK*, AMATA* และ WHA* ในขณะเดียวกัน เราก็ยังมองว่าตัวเลข GDP ที่อ่อนแอใน 4Q62 และแนวโน้มการเติบโตที่ไม่น่าตื่นเต้นในปี 2563 อาจจะทำให้ตลาดยังคงมองว่า กนง. อาจจะลดดอกเบี้ยอีก ซึ่งจะส่งผลดีกับหุ้นการเงินประเภท non-bank โดยเราเลือก KTC* เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้