จบไม่ลง ‘เชฟโรเลต’ ลด50% แนะฟ้อง-ไกล่เกลี่ยดีลเลอร์ ปมวางเงินจองแต่ไม่มีรถยนต์

วันนี้ (27 ก.พ.)เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เชิญผู้แทนบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) เข้าหารือจากกรณี บริษัทประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย และมีการปรับลดราคารถยนต์ รุ่นแคปติวา ลง 50% ซึ่งมีผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์และทำการจองรถยนต์รุ่นนี้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก

ภายหลังการหารือนายเทวัญ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่บริษัท เชฟโรเลตส์ฯ มีการประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยและลดราคารถลงในวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมามีผู้เข้ามาร้องเรียนกับ สคบ.แล้วจำนวน 16 ราย ซึ่งการร้องเรียนของผู้บริโภคมี 3 ลักษณะคือ 1.ผู้บริโภคที่มีการซื้อรถยนต์ไปในราคาเต็มและมีการใช้รถยนต์ไปแล้วก่อนที่บริษัทจะมีการประกาศลดราคา 2.ผู้ซื้อที่จองซื้อรถแล้วในราคาเต็มก่อนที่บริษัทจะมีการประกาศลดราคา และ 3. ผู้ที่จองซื้อรถยนต์ภายหลังจากที่มีการประกาศลดราคาแล้วแต่บริษัทไม่สามารถที่จะส่งมอบรถยนต์ได้

ทั้งนี้ ได้รับการชี้แจงจากตัวแทนของบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ว่าการประกาศลดราคาดังกล่าวมาจากการที่บริษัทแม่ได้ขายกิจการในประเทศไทยให้กับบริษัทไชน่าเกรทวอร์ ประเทศจีน ที่จะเข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยแทน ซึ่งบริษัท เชฟโรเลตที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยได้มีแผนที่จะยุติการจำหน่ายรถในประเทศไทยและมีการปรับลดพนักงานลงกว่า 1,000 ตำแหน่ง โดยในการหารือกันและเจรจาตนได้มีการขอให้บริษัทพิจารณาเยียวยาให้กับผู้บริโภคที่มีการซื้อรถยนต์เชฟโรแลตเพิ่มเติมจากบริการที่บริษัทมีให้โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีการจองซื้อรถยนต์ในราคาเต็มก่อนที่จะมีการประกาศลดราคา เช่น การเพิ่มบริการหลังการขายเช่นเพิ่มการระยะทางในการบริการหลังการขายอีก 1 แสนกิโลเมตร เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนบริษัท เชฟโรเลตฯ ยืนยันว่าไม่มีนโยบายคืนเงินให้กับผู้บริโภคเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่มีนโยบายบริการหลังการขายและดูแลผู้บริโภค มีการรับประกันคุณภาพรถยนต์ จำนวน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร หรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อนและการซ่อมบำรุง ณ ศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท เชฟโรเลตฯ โดยผู้บริโภคสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท เชฟโรเลตฯ ทั่วประเทศ และบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มีคลังอะไหล่แท้มาตรฐานทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ไว้ครบถ้วน และเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

สำหรับประเด็นที่ผู้บริโภคร้องเรียนต่อ สคบ. ในการซื้อรถยนต์ของบริษัทก่อนการประกาศลดราคาลง 50% เพียงไม่นาน ซึ่งผู้บริโภคมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะไม่มีระยะเวลาการประกาศแจ้งผู้บริโภคก่อน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการวางเงินจองรถยนต์ในช่วงก่อนการประกาศลดราคา แต่ไม่มีสินค้าจำหน่ายและทางบริษัทตัวแทนขอยกเลิกใบจองและให้ไปรับเงินคืน ซึ่งกรณีนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมบริษัททราบดีอยู่แล้วว่าไม่มีสินค้า แต่ยังออกใบจองและรับเงินจองจากผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นความผิดที่ สคบ. สามารถดำเนินการได้ เพราะสินค้ามีไม่เพียงพอกับปริมาณการจองที่เกิดขึ้น ตามกฎหมายสามารถฟ้องทั้งบริษัทตัวแทน และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ซึ่ง สคบ.จะรวบรวมข้อมูลในส่วนนี้ภายใน  1 - 2 สัปดาห์

“โดยส่วนตัวแล้ว หากซื้อรถยนต์ยี่ห้อนี้ และยังใช้เป็นป้ายแดงและราคาลดลงแบบนี้ผมก็จะเอาไปทุบทิ้งที่หน้าบริษัทเซฟโรเลต ตอนนี้ สคบ.จะพยายามดูแลประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ที่ซื้อรถไปก่อนลดราคา สคบ.ก็เสนอว่าควรได้รับการดูแลหลังการขายเพิ่มเติม เช่น จากเดิม ได้รับการดู แลเครื่องยนต์ฟรีอีก 100,000 กิโลเมตร ระยะเวลา 3 ปี น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 กิโลเมตร ระยะเวลา 6 ปี” นายเทวัญกล่าว