การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ “โควิด-19” ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และขยายวงกว้างออกไปทั่วโลก
ถือเป็นภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะกระทบการใช้ชีวิตและสุขภาพอนามัยของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจภาคการผลิตในหลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานการผลิตในประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดต้นกำเนิดของโรค โรงงานหลายแห่งต้องหยุดเดินเครื่องการผลิตชั่วคราวมาตั้งแต่ตรุษจีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบไปเต็มๆ การเดินทางสัญจรระหว่างประเทศแทบหยุดชะงัก เพราะแต่ละประเทศตอนนี้เข้มงวดกันเต็มที่ ประกาศแจ้งเตือนพลเมืองของตนเองให้ “เลี่ยง” จนถึง “ห้าม” เดินทางไปยังประเทศที่สุ่มเสี่ยง
หันกลับมาดูบ้านเรา การท่องเที่ยวถือเป็นกลุ่มธุรกิจแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่รัฐบาลจีนประกาศสั่งห้ามบริษัททัวร์ ขายแพ็คเกจทัวร์นำนักท่องเที่ยวออกนอกประเทศ ทำให้กรุ๊ปทัวร์จีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักของไทยหายไปทันที ส่วนชาติอื่นๆ ลดลงไปด้วยเช่นกัน
เมื่อท่องเที่ยวติดไวรัส สะเทือนไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร รถรับส่ง รวมไปถึง “ห้างสรรพสินค้า” โดนสองต่อ นอกจากนักท่องเที่ยวหายไปแล้ว ลูกค้าคนไทยก็หายไปด้วย เพราะกลัวไวรัส ไม่กล้าออกมาชอปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง มาทานข้าว พบปะสังสรรค์เมื่อแต่ก่อน บรรยากาศเงียบเหงาไปตามๆ กัน
อย่างห้างใหญ่ “เซ็นทรัล” ผู้บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อศูนย์การค้าของบริษัท 8 แห่ง จากทั้งหมด 34 แห่ง เพราะเป็นศูนย์การค้าที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากคิดเป็นสัดส่วน 30-40% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด
โดย 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดลงไปแล้ว 10-20% และเบื้องต้นได้ประเมินว่าหากสถานการณ์ลากยาว 3-4 เดือน จะกระทบรายได้บริษัทปีนี้ลดลง 1% จากเดิมคาดโต 8% จากปี 2562 ที่มีรายได้ 38,104 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาช่วยเหลือร้านค้าที่เช่าพื้นที่
ส่วน “เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์” ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK อีกหนึ่งศูนย์การค้ายอดนิยมของต่างชาติ เพราะเดินทางสะดวก อยู่ใจกลางเมือง มีของให้เลือกช้อปหลากหลาย ปรากฎว่าตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าแทบขายของไม่ได้ เพราะนักท่องเที่ยวหายไปมาก
จนผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่ต้องออกมารวมตัวกันเมื่อสัปดาห์ก่อน และเรียกร้องให้ห้างออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน เพราะรายได้ไม่พอจ่ายค่าเช่า โดยขอให้ลดค่าเช่าพื้นที่ลง 50% และยกเลิกการจัดเก็บภาษีโรงเรือน ต่อมาทางห้างประกาศลดค่าเช่าให้ ตั้งแต่ 10-20% เป็นเวลาทั้งหมด 6 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 ส.ค. 2563
ขยับไปที่ห้าง “แพลทินัม” ศูนย์รวมแฟชั่นเสื้อผ้าค้าส่งค้าปลีกดังย่านประตูน้ำ ของบริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT เป็นอีกหนึ่งห้างยอดนิยมขวัญใจขาช้อป เพราะมีเสื้อผ้าให้เลือกซื้อมากมาย หลากหลายสไตล์ ราคาก็ย่อมเยา แต่วันนี้แทบไม่มีคนเดิน ขณะที่บริษัทเร่งออกมาตรการช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ หลังผู้ประกอบการออกมาขอลดค่าเช่า เบื้องต้นทางห้างจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้คนออกมาใช้จ่ายตลอดปี
ส่วนที่ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อน” แลนด์มาร์คยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหลังเกิดโควิด-19 ทำให้ลูกค้าลดลงไปแล้วเกือบ 80% โดยเฉพาะคนจีน ทำให้เจ้าของโครงการบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ได้เยียวยาผู้ค้าโดยลดค่าเช่าให้ 25% และจะพิจารณาสถานการณ์เป็นรายเดือนไป
ดูจากสถานการณ์แล้วต้องบอกว่าน่าเป็นห่วง เพราะไม่รู้ว่าไวรัสจะหายเมื่อไหร่ ยื่งนานออกไปผลกระทบยิ่งมากขึ้น เมื่อคนไม่ออกมาช้อป นักท่องเที่ยวไปมาเที่ยว ศูนย์การค้าก็ขายของไม่ได้ แล้วยังต้องเยียวยาคู่ค้าเฉือนเนื้อตัวเองลดค่าเช่าลง กระทบรายได้ปีนี้
อย่างกรณีของ CPN บล.ทิสโก้ ระบุว่า ทุกการระบาดของไวรัส 1 เดือน จะทำให้รายได้ของบริษัทลดลง 0.06% และผลประกอบการลดลง 1.2% ขึ้นกับส่วนลดที่ให้กับผู้เช่าตั้งแต่ 10-30% และส่งผลให้มูลค่าเหมาะสมลดลง 0.5%
ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กรณีของ MBK ทุกๆ 1 เดือนที่ค่าเช่าที่มาจากส่วนแบ่งรายได้ของผู้เช่า ซึ่งคิดเป็น 25% ของค่าเช่าทั้งหมดหายไป ทำให้ประมาณการกำไรปี 2563 ลดลง 1.8% และทุกๆ 1 เดือนที่ให้ส่วนลดค่าเช่า 50% กับผู้เช่าที่จ่ายค่าเช่าคงที่ ประมาณการกำไรปี 2563 จะลดลง 2.4%