กบน.ฉวยจังหวะราคาตลาดโลกร่วง รีดเงินกลุ่มดีเซลเข้ากองทุนฯ50สต.ต่อลิตร
กบน.รีดเงินกลุ่มดีเซล 50 สตางค์เข้ากองทุนน้ำมันฯ หลังราคาตลาดโลกร่วง ดันค่าการตลาดสูง พร้อมฉวยจังหวะลดอุดหนุนไบโอดีเซล ขณะที่ กลุ่มเบนซิน ลดราคาขายปลีก 60 สตางค์ มีผล12มี.ค.นี้
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน วานนี้(11 มี.ค.) มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มน้ำมันดีเซล ดังนี้ ดีเซล บี 7 เรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯเพิ่ม 50 สตางค์ต่อลิตร เป็นจัดเก็บอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซล บี 10 ลดอุดหนุนลง 50 สตางค์ต่อลิตร เป็นอุดหนุนอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร และดีเซล บี20 ลดอุดหนุนลง 50 สตางค์ต่อลิตร เป็นอุดหนุนอยู่ที่ 3.91 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมากจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาปรับลดลง 5 ครั้ง หรือ ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดกลุ่มดีเซล สูงกว่า 2 บาทต่อลิตร และทำให้กองทุนฯมีเงินไหลออกเพิ่มขึ้น จากการอุดหนุนราคาไบโอดีเซล จึงต้องปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯเพื่อรักษาเสถียรภาพในระยะยาว โดยหลังจากปรับอัตราใหม่แล้ว จะส่งผลให้ปลายเดือนมี.ค.นี้ กองทุนน้ำมันฯ จะมีเงินไหลเข้า 352 ล้านบาทต่อลิตร จากเดิมไหลออก 787 ล้านบาท เดือนเม.ย.จะไหลออกเป็น 794 ล้านบาท และเดือนพ.ค. จะไหลออกเป็น 1,858 ล้านบาท ตามยอดการใช้ ดีเซล บี10 ที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 10-11 ล้านลิตรต่อวัน และเพิ่มเป็น 20-30 ล้านลิตรต่อวัน ในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้
ส่วนกลุ่มเบนซิน ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพราะยังมีเงินไหลเข้ากองทุนฯทำให้สถานะยังเป็นบวก ขณะเดียวกันค่าการตลาดยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้ค้าน้ำมัน ได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินทุกชนิดลง 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น แก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลง 40 สตางค์ต่อลิตร ในวันที่ 12 มี.ค.นี้
ปัจจุบัน ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 36,196 ล้านบาท แบ่งเป็น ประเภทน้ำมัน 41,699 ล้านบาท และประเภท LPG ติดลบ 5,503 ล้านบาท