AU - ซื้อ
คาดผลประกอบการปี 63 ราว 246 ลบ. โต 3.5%YoY และคาดแฟรนไชส์ฮ่องกงเปิด 3Q63 เป็นอัพไซต์
ประเด็นสำคัญ :
Ø รายงานกำไรปี 62 เท่ากับ 237 ลบ. +20%YoY (น้อยกว่าคาด 8%) : โดยมีรายได้ปรับตัวขึ้นสู่ 1,194 ลบ. +37%YoY น้อยกว่าคาด 6% เนื่องจากมีจำนวนสาขาเปิดน้อยกว่าเป้าหมาย 3 สาขา โดย ณ ปลายปี 62 มีสาขาทั้งหมด 38 สาขา เปิดเพิ่มทั้งสิ้น 6 สาขา ขณะที่รายได้รวมทั้งหมดถูกแบ่งเป็นสัดส่วนดังนี้ 1) Dine-In 72% 2) Take-Away/Delivery 28% 3) OEM 4% 4) Pop-up Store/Catering 3% และ 5) รับรู้รายได้จาก Initial และ Entry Fee จากสาขาฮ่องกงอีก 0.1% ขณะที่ อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตกว่า 8.9% สนับสนุนจากยอดผ่าน Delivery ที่เพิ่มขึ้น ส่วน %GPM ทรงตัวในระดับสูงที่ 65% แต่ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ระดับ 67% เนื่องจากยอด Delivery มีมาร์จิ้นต่ำกว่า ส่งผลให้ปี 62 บริษัทมีกำไรเท่ากับ 237 ลบ. เติบโต 20%YoY ต่ำกว่าคาด 8%
Ø คาดผลประกอบการปี 63 ราว 246 ลบ. โต 3.5%YoY: เราคาดรายได้ปี 63 ราว 1.28 พันลบ. +6%YoY เติบโตในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนที่บวกกว่า 37% หลังจากในปีนี้ บริษัทจะดำเนินกลยุทธ์ Selective Growth เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติตามสาขาหลักใจกลางเมือง โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น 15-20% ของรายได้รวม อย่างไรก็ดี บริษัทมีการเจรจาต่อรองขอลดค่าเช่าพื้นที่แล้ว โดยผู้บริหารยังคงตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา แต่ลดขนาดของสาขาลง นอกจากนี้ยังปรับใช้ 2 New models ของสาขา Pop-Up stores คือ 1) Semi-permanent Store มี Dining area ระยะเวลา 3 เดือน - 1 ปี และ 2) Small Kiosk ไม่มี Dining area ระยะเวลา 1-4 สัปดาห์ ปัจจุบันมีสาขา Pop-up Stores 8 แห่ง และคาดเปิดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 แห่งต่อเดือน ส่วน %GPM คาดจะปรับลงมาที่ระดับ 64% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 65% ตามยอดขายที่คาดว่าจะปรับตัวลง ส่งผลให้เราคาดกำไรปี 63 อยู่ที่ 246 ลบ. โต 3.5%YoY อย่างไรก็ดี เรายังไม่รวมอัพไซต์จากการเปิดแฟรนไชส์ในฮ่องกงที่คาดว่าจะเปิดบริการในช่วง 3Q63
Ø ปรับลดราคาเหมาะสมสู่ 10.20 บาท (จากเดิม 12.90 บาท) คงคำแนะนำ “ซื้อ”: เราปรับลดราคาเหมาะสมสู่ 10.20 จากเดิมที่ 12.90 บาท ตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอย และจำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัว ขณะที่ เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี DCF โดยใช้ WACC เท่ากับ 9% และปรับ Terminal Growth ลงจาก 5.5% มาที่ระดับ 5% อย่างไรก็ดี ราคาเหมาะสมอยู่สูงกว่าปัจจุบัน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
i) ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและรุนแรง ii) ธุรกิจแฟรนไชส์ไม่ประสบความสำเร็จ iii) ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ