พาณิชย์เตือนขาย 'เจลล้างมือ-แอลกอฮอล์' เกินควร โดนด้วยแม้ไม่ใช่สินค้าควบคุม
“ปลัดพาณิชย์” แถลงผลจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผิดกฎหมาย เผยวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา จับได้อีก 12 ราย เป็นผู้ค้าในสำเพ็ง 4 ราย ที่เหลือจับได้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 135 ราย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ณ วันที่ 12 มี.ค.2563 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้อีก 12 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 ราย โดยเป็นการล่อซื้อและจับกุมแผงลอยสำเพ็ง 4 ราย พบขายหน้ากากอนามัยกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท จึงแจ้งข้อหาขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควรทั้ง 4 ราย และยังพบที่ร้านค้าเขตดินแดง 1 ราย และผู้ค้าในเขตนนทบุรี 1 ราย โดยเป็นการขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควร ส่วนในต่างจังหวัด มีจำนวน 6 ราย ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย พัทลุง 1 ราย ทั้ง 4 รายขายหน้ากากอนามัยในราคาชิ้นละ 17-20 บาท จึงได้แจ้งข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและขายแพงเกินสมควร และที่ปทุมธานีอีก 2 ราย ที่ขายหน้ากากอนามัยราคาแพงเกินสมควรและไม่ปิดป้ายแสดงราคาขายเจลล้างมือ
“ที่ตลาดสำเพ็ง มีคนแจ้งเข้ามามาก มีตรงนั้น ตรงนี้ แต่มีปัญหาตอนไปจับ พอไปปิดร้านหนี เอาสินค้าไปซ่อน เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปซุ้ม ไปดัก จนเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) สามารถจับกุมได้ ขณะที่เปิดร้านขายตอนดึก รวมๆ แล้วมีสินค้าที่จับได้ 12,700 ชิ้น ซึ่งได้จับส่งตัวดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ทั้งขายเกินราคาควบคุม มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนหรือทั้งจำทั้งปรับ และค้ากำไรเกินควร จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว”
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ส่วนผลการจับกุมดำเนินคดี จนถึงวันที่ 12 มี.ค.2563 จับได้รวม 135 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 88 ราย และในต่างจังหวัด 47 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ นอกจากจับกุมหน้ากากอนามัย ยังมีการจับกุมผู้กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควร และจับกุมผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ ที่แม้ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมในข้อหาขายแพงด้วย เพราะถือว่าค้ากำไรเกินควร อีกทั้งแอลกอฮอล์ ยังเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในตัวมันเองอยู่แล้ว
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มงวดในการจับกุมผู้ค้ากำไรเกินควรในส่วนของเจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เหมือนกับที่ทำการจับกุมผู้ค้าหน้ากากอนามัยผิดกฎหมายด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก โดยราคาไหนที่ถือว่าแพงเกินสมควร สามารถตรวจสอบได้จากเมื่อก่อนขายกี่บาท ปัจจุบันขายกี่บาท เจอที่ไหนจะจับทันที ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านขายยา ห้าง หรือในออนไลน์
ทั้งนี้ ยืนยันว่าแอลกอฮอล์ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการขาดแคลน เพราะไทยเป็นผู้ผลิตรายสำคัญ โดยมีวัตถุดิบที่ได้จากมันสำปะหลัง และน้ำตาล และกรมสรรพสามิตเองก็ปลดล็อกให้นำมาใช้ได้ จึงไม่ขาดแคลน และไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคา แต่ถ้ายังมีปัญหา เดี๋ยวจะมีมาตรการออกมาจัดการ ส่วนผู้บริโภค หากพบเจอที่ไหนขายแพง ขอให้แจ้งมายังสายด่วน 1569 หรือหรือสื่อโซเชียลของกรมการค้าภายใน