‘ประกัน’ ผวาทุจริตเคลมเบี้ยโควิด จ่อเลิกขายกรมธรรม์ 'เจอ จ่าย จบ'

แหล่งข่าวจากธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทประกันภัยต่างๆ อยู่ระหว่างพิจารณา เลิกขายกรรมธรรม์ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ประเภท “เจอ จ่าย จบ” เนื่องจากเริ่มกังวลว่า จะเกิดการทุจริตเคลมสินไหมจากผู้เอาประกันภัย(Moral Hazard ) เพราะที่ผ่านมาเริ่มพบว่า คนซื้อประกันโควิดกันหลายฉบับจากหลายบริษัท เพื่อต้องการเงินก้อนเป็นจำนวนมาก

"บางคนซื้อถึง 8 กรมธรรม์ ได้ทุนประกันรวมกว่า 5-8.5 แสนบาท แต่ลงทุนจ่ายเบี้ยเพียงแค่ 5-6 พันบาท หากคนกลุ่มนี้เกิดไม่มีรายได้ ต้องหยุดงาน หรือธุรกิจมีปัญหา เขาก็อาจจะพร้อมเอาตัวเองไปติดเชื้อไวรัสเพื่อเอาเงินประกัน เพราะค่ารักษาพยาบาลภาครัฐก็ดูแลทั้งหมด และด้วยพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ อาจทำให้คนรอบข้างมีความเสี่ยงต่อการติด โควิด-19 เพิ่มด้วย เพราะการระมัดระวังตัวจะลดลง"

นอกจากนี้ ความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวมีน้อยมาก และกว่า 80% ของผู้ติดเชื้อก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก ดังนั้นพื้นฐานการรับประกันจึงไม่เหมือนกับประกันภัยโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น ประกันภัยมะเร็ง แบบ เจอ จ่าย จบ ซึ่งมีความสมเหตุสมผลในการคุ้มครองมากกว่า 

แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า ประกันโควิด แบบเจอ จ่าย จบ ยังทำให้สถิติอัตราความเสียหายมีความโน้มเอียงได้ เช่น กรณีถ้ามีคนรู้ว่าตัวเองเป็น แล้วไปบอกเพื่อนว่าทำแบบนี้แล้วได้เงิน ทุกคนก็จะแห่ซื้อกัน กลายเป็น การส่งเสริมคนที่อยู่รอบข้าง ทำให้สถิติมีค่าเบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริง นี่คือสิ่งที่น่ากลัว

ขณะที่ในทางตรงข้าม หากถามว่า คนจะซื้อประกันโควิด ที่เป็นค่ารักษาพยาบาลและโคม่า คนก็อาจจะเริ่มคิดก่อนว่าจะซื้อดีหรือไม่ เพราะค่ารักษาพยาบาลรัฐก็จ่ายให้อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับแบบเจอจ่ายจบ ต่อให้มีระยะเวลารอคอยคนก็ซื้อทันที

“ตอนนี้เหมือนซื้อล็อตเตอรี่มากกว่า อยากให้มองที่ พื้นฐานของประกันภัยควรเป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการลดความเสี่ยง หรือลดความทุกข์ยาก แต่ไม่ใช่ไปช่วยให้คนที่มีความคิดแบบนี้รวยขึ้น ตอนนี้ประกันหลายแห่งก็ปรับตัว บางบริษัทก็พิจารณาเลิกขายแบบเจอจ่ายจบ หรือลดทุนประกันเจอจ่ายจบให้น้อยลง”

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายบริษัทประกันพิจารณาแล้วจะหยุดขายประกันโควิดแบบเจอจ่ายจบ ส่วนประกันโควิดที่เสนอขอความเห็นชอบเข้ามาใหม่ ทางคปภ. จะพิจารณาอย่างเข้มงวดมากขึ้น