ส่องโปร ‘อินเทอร์เน็ต’ รับกระแส Work from Home

เปิดแพคเกจอินเทอร์เน็ตสำหรับการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home จาก 3 โอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่ของไทย ทั้งเอไอเอส ทรู ดีแทค จะมีอะไรบ้าง? มาดูกัน

หลายบริษัทเริ่มใช้นโยบาย Work from home หรือการทำงานจากที่บ้านมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 (COVID-19) เนื่องจากขณะนี้ทั่วโลก (วันที่ 19 มีนาคม 2563 เวลา 16.30 น.) ทั่วโลกพบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรน่าทะลุ 220,000 ราย แล้ว เสียชีวิตเฉียด 9,000 ราย

ขณะที่ประเทศไทย ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ (20 มีนาคม 2563 เวลา 11.00 น.) พบเพิ่มอีกกว่า 50 ราย รวมแล้วในไทยมีผู้ป่วยยืนยันรวมทั้งหมด 322 ราย ซึ่งสร้างความตระหนกอย่างมาก ทำให้หลายองค์กรหรือหน่วยงานพยายามออกมาตรการรับมือให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันหรือใกล้ชิดกัน

แน่นอนว่าการทำงานที่บ้าน ไม่ได้หมายความว่าจะได้พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่คือการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน แต่ประสิทธิภาพการทำงานยังคงเดิม หรือเพิ่มมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่หลายคนนึกถึงและเป็นสิ่งจำเป็น ก็คือ อินเทอร์เน็ต เพื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน รวมถึงการประชุมทางไกล หรือวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์

อ่านบทความ : 8 วิธี 'ทำงานที่บ้าน' ให้ได้ 'งาน' ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมโปรโมชันอินเทอร์เน็ตสำหรับ Work from Home จากโอเปอเรเตอร์ 3 ราย ค่ายเครือข่ายโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ ทั้ง AIS, TRUE และ DTAC ที่มีทั้งรูปแบบส่วนบุคคล และรูปแบบขององค์กร

เริ่มกันที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส (AIS) ต้องบอกเลยว่าปรับตัวรองรับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะล่าสุดออกแพคเกจ Working From Home ออกมาโดยเฉพาะ

สำหรับลูกค้าบุคคลทั่วไป มีแยกย่อยให้เลือกทั้งแบบ Work Anywhere เป็นโปรเน็ตสำหรับใช้งานผ่านโปรแกรม Office 365 และ Zoom Video Conferencing ในราคา 99 บาท/เดือน และยังมีอีกหนึ่งโปร Max Speed 50GB ความเร็วก็จะปรู๊ดปร๊าดมากขึ้น และสามารถใช้ AIS Super Wifi ได้อย่างไม่จำกัด ราคา 499 บาท/เดือน โดยเป็นแพคเกจสำหรับการทำงานร่วมกันผ่านแอพพลิเคลั่น Office รวมถึงที่จัดเก็บและการแชร์ไฟล์ในระบบคลาวด์ นอกจากนี้ยังรองรับการประชุมทางออนไลน์ด้วย

อีกหนึ่งรูปแบบคือ Work from Home ของ AIS แพคเกจนี้ราคาค่อนข้างสูงหน่อย เพราะเป็นการใช้งานที่บ้าน ก็จะมีค่าเราท์เตอร์ด้วย มี 2 แบบ คือ 4G Home Broadband ราคา 2,990 บาท ประกอบด้วย เราต์เตอร์ ซิม และแพ็คเกจ 4G ไม่จำกัดความเร็ว 4 Mbps ส่วนเดือนแรกก็แถมอินเทอร์เน็ตฟรีๆ 50GB และอีกแบบคือ 5G Home Broadband ประกอบด้วย เราต์เตอร์ 5G/4G ใช้งาน 4G ไม่จำกัด 100 GB/เดือน และใช้งาน 5G ไม่จำกัด 50GB/เดือน (เฉพาะช่วงนี้-30 มิ.ย.2563)

ซึ่งรองรับทั้งสองรูปแบบก็รองรับการทำงานผ่าน Microsoft Office 365 และ Zoom Video Comferencing แต่ไม่ได้รวมค่าไลเซนส์ ซึ่งระยะเวลาของโปรถึง 30 มิ.ย.2563 เท่านั้น

นอกจากนี้ในส่วนขององค์กร AIS ร่วมกับไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ออกแพคเกจ Teams for Thailand เป็นการให้ใช้ไลเซนส์ Office 365 แผน E1 เป็นการให้ทดลองใช้ Office 365 ฟรี 6 เดือน ซึ่งรองรับการประชุมร่วมกันผ่านเสียง วิดีโอ แชท ซึ่งรอบระบผู้เข้าร่วมต่อครั้งได้มากถึง 250 คน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ อีกทั้งรองรับทั้ง iOS Android และ Windows รวมถึงยังสามารถเก็บข้อมูลและแชร์ไฟล์ในที่เก็บข้อมูล OneDrive ขนาด 1 TB แต่แพคเกจนี้มีถึง 30 เมษายน 2563 เท่านั้น

ด้านของดีแทค ตอบรับกระแสการทำงานที่บ้าน และตอบโจทย์ความกังวลของผู้ที่ต้องใช้งาน ทั้งระบบเครือข่ายและข้อมูลสำคัญที่ต้องเชื่อมต่อจากภานนอกองค์กร โดยออกโซลูชั่น NetFoundry ที่จะมาช่วยให้สามารถใช้งานระบบภายในองค์กรได้ โดยไม่ตองใช้ VPN

นอกจากนี้ยังมีแพคเกจที่ออกมารองรับ Work from Home คือ โซลูชั่น “วิกฤติโควิด ธุรกิจต้องรอด” ซึ่งมี 3 รูปแบบ ได้แก่

1.ทำงานทุกที่สบายใจไกลโควิด 19 เป็นแพคเกจเสริมอินเทอร์เน็ต ในราคา 99 บาท พร้อมกับอินเทอร์เน็ต 500MB แถมประกันโควิด คุ้มครอง 1 ปี ให้ฟรีๆ

2.แพคเกจทำงานที่บ้านสบายใจ ด้วยแพคเกจอินเทอร์เน็ตราคาสุคุ้ม แพคเกจนี้ก็เป็นบริการเสริมอินเทอร์เน็ต 30GB ต่อเดือน ระยะเวลานาน 6 เดือน ราคา 199 บาทต่อเดือน หรือจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตมากกกว่านี้ ก็มีแพคเกจเสริมอินเทอร์เน็ต 60 GB ต่อเดือน ระยะเวลา 6 เดือนเท่ากัน ราคา 299 บาทต่อเดือน และ

3.แพคเกจทำงานที่ไหน เครือข่ายปลอดภัย ข้อมูลก็ปลอดภัยด้วย NetFoundry คิดในราคา 99 บาทต่อผู้ใช้งานต่อเดือน

อีกหนึ่งโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของไทย อย่าง “ทรู” ก็ออกแพคเกจรองรับ Work from Home เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจหรือองค์กรกร โดยชูโซลูชั่นวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ (VDO Conference) อยู่ที่ไหนก็ประชุมได้เหมือนอยู่ที่ออฟฟิศ

และอีกหนึ่งโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของไทย อย่าง “ทรู” ก็ออกแพคเกจรองรับ Work from Home เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจหรือองค์กรกร โดยชูโซลูชั่นวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ (VDO Conference) อยู่ที่ไหนก็ประชุมได้เหมือนอยู่ที่ออฟฟิศ ซึ่งแพคเกจนี้สามารถรองรับการคุยพร้อมกันได้สูงสุดถึง 1,000 สาย ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

โดยลูกค้าธุรกิจ สามารถเปิดแพคเกจโซลูชั่นวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ นาน 12 เดือน รับสิทธิประชุมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ราคา 599 บาทต่อเดือน รับ 1 สิทธิ์ห้องประชุม ใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G และ 3G ได้ 2 GB ใช้ Wifi ได้ไม่จำกัด

และมีให้เลือกอีกหนึ่งแพคเกจ ก็คือ ราคา 249 บาทต่อเดือน มี 1 สิทธิห้องประชุม รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 100 คน สิทธิโทรฟรีในเครือข่ายทรูมูฟ เอช 24 ชั่วโมง ใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G และ 3G ได้ 2 GB ใช้ Wifi ได้ไม่จำกัด

ขณะเดียวกันลูกค้าปัจจุบัน ก็สามารถสมัครแพคเกจเสริมวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ ได้ด้วย ในราคา 199 บาท/เดือน นาน 12 เดือน รับ 1 สิทธิ์ห้องประชุม รับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 100 คน ประชุมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ใช้อินเทอร์เน็ต 4G และ 3G ฟรี 2 GB