'เซ็นทรัล' แจ้งปิด 15 สาขา ใน กทม.-ปริมณฑล
(อัพเดท) เซ็นทรัลพัฒนาแจ้งปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล รวม 15 สาขา ยกเว้น เฉพาะบริเวณชั้นซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ยังเปิดให้บริการสำหรับธุรกิจบางประเภทตามประกาศกรุงเทพมหานคร
วันนี้ (21 มี.ค.) ภายหลังจากคำสั่งให้ปิดสถานที่เสี่ยงในเขต กทม. เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหนึ่งในนั้น คือ คำสั่งปิดห้างสรรพสินค้านั้น ล่าสุด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์พร้อมให้ความร่วมมือและร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยระงับวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามประกาศกรุงเทพมหานคร
โดยบริษัทฯได้ประกาศปิดให้บริการชั่วคราวศูนย์การค้า 15 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า, รามอินทรา, บางนา, พระราม 2, พระราม 3, แกรนด์ พระราม 9, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต, รัตนาธิเบศร์, มหาชัย และเซ็นทรัล วิลเลจ มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 12 เมษายน 2563 ส่วนเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา จะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 31 มีนาคม 2563
ทั้งนี้ ยกเว้น เฉพาะบริเวณชั้นซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ยังเปิดให้บริการสำหรับธุรกิจบางประเภทตามประกาศกรุงเทพมหานคร ดังต่อไปนี้
- ซูเปอร์มาร์เก็ต (เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์)
- ร้านขายยา รวมทั้ง Boots, Watson
- ร้านขายอาหารสัตว์ และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต (เช่น แฟมิลี่มาร์ท)
- ร้านอาหารเฉพาะการจำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น (Take Away หรือ Delivery)
- และอื่นๆ ตามที่อาจจะมีการประกาศเพิ่มเติม
สำหรับร้านอาหารในโซนอื่นที่ศูนย์ฯ ไม่ได้เปิดให้บริการลูกค้า และประสงค์จะให้บริการ Take Away หรือ Delivery ทางศูนย์ฯ ยินดีจัดหาพื้นที่บริเวณชั้นซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อบริการรับและส่งออร์เดอร์สำหรับลูกค้า และอำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่ร้านในการประกอบอาหาร
สำหรับอาคารสำนักงานของบริษัทฯ ทุกแห่ง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ (โดยร้านค้าในอาคารสำนักงานให้ปฏิบัติตามประกาศจากกรุงเทพมหานคร)