บริหารธุรกิจและบริหารยอดขาย ภาวะวิกฤติ..เมืองร้าง!
การค้าในสภาวะวิดฤติย่อมยากเสมอสำหรับผู้ประกอบการ หากไม่มีการปรับเปลี่ยน หรือตั้งรับไว้ อาจจะทำให้เกิดวิกฤติในวิกฤติก็เป็นไปได้
Part1.เมื่อความเงียบเหงาครอบคลุม......!
สภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสในกรุงเทพฯ และหลายๆ จังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันแบบทวีคูณ ที่เพิ่มมากกว่าในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งมาตรการของภาครัฐแบบเข้มข้นที่ทยอยออกมา เพื่อควบคุมจำกัดพื้นที่ ป้องกันไม่ให้ระบาดไปเร็วกว่านี้เป็นสิ่งจำเป็น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้น ประชาชนย่อมเกิดความตื่นกลัว และระมัดระวังตัว ทำให้ผู้คนจะออกไปข้างนอก ก็ในกรณีที่จำเป็น หรือต้องเดินทางไปทำงาน ส่งผลให้ สถานที่ที่เป็นแหล่งรวมผู้คน กลายเป็นสถานที่เงียบเหงา จะมีผู้คนคึกคักบ้างในช่วงเวลาสั้นๆ ที่จำเป็นต้องเดินทาง (หรือไปเพื่อซื้อสินค้ากักตุนเพราะความตื่นตระหนก!)
หลายๆ ประเทศเริ่มทยอยออกมาตรการปิดประเทศ เพราะเป็นเรื่องจำเป็น ถ้าต้องการกำจัด ควบคุม แก้ไข ส่วนในประเทศไทย..ความเงียบเกาะกุมหลายๆ พื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งของผู้คน การค้าการขายชะงัก หยุดนิ่ง!
Part 2.ปรับการบริหารเน้น Online Management
การบริหารงานในช่วงนี้ของแต่ละธุรกิจ จะเน้นการบริหารการสื่อสารแบบเจอกันให้น้อยที่สุด! การให้พนักงานที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาที่ทำงาน สามารถทำงานที่บ้านได้ (แบบที่ต่างประเทศหลายประเทศทำในช่วงนี้ และบริษัทในไทยหลายแห่งก็เริ่มออกมาตรการนี้ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพนักงาน) จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสถานการณ์การระบาดในกรุงเทพและทั่วประเทศยังไม่นิ่ง
การใช้ห้องประชุมจะลดน้อยลง เพราะเป็นความเสี่ยงเช่นกัน แต่จะประชุมช่องทางการสื่อสารแบบเห็นหน้า (Video Call & Call Conference) หรือได้ยินเสียงแทน แม้กระทั่งการขึ้นลิฟต์ของพนักงานที่ทำงานในอาคารสูงๆ ก็ต้องลดจำนวนพนักงานไม่ให้ออกันอัดแน่นในลิฟต์ ก็เป็นวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยง
การบริหารการสื่อสาร “โดยไม่ต้องพบหน้า เจอตัวเป็นๆ” (เพื่อให้มีชีวิตตัวเป็นๆ ต่อไปได้ โดยไม่ต้องติดเชื้อ) เป็นเรื่องปกติของหลายๆ ที่ในช่วงนี้
มองในแง่ดี... หลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 ผ่านพ้นไป Online Management อาจเป็นวิธีการบริหาร วิธีการทำงานของหลายๆ หน่วยงานหลายๆ ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง เพราะพนักงานหลายๆ หน่วยงานไม่มีความจำเป็นต้องมาที่ทำงานก็สามารถสร้างผลงานได้ คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น ไม่ต้องตื่นเช้ามืดกลับบ้านดึกฝ่าจราจรในแต่ละวันให้หมดแรง!
Part 3.ปรับการขายเป็น Online & Tele-Communication to Customer
ถึงจะอยู่ในยุควิกฤติไวรัส แต่ธุรกิจก็จำเป็นต้องดิ้นรน เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติซ้ำซ้อนกับธุรกิจของตนเอง (อย่างเช่นหลายๆ ธุรกิจกำลังเป็นอยู่) การปรับตัวเพื่อสร้างรายได้ หรือประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด เช่น มาเพิ่มหรือมาเน้นการขายผ่าน Online เป็นทางเลือกหนึ่ง และเหมาะสมอย่างยิ่งกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก็ใช่ว่าทุกที่จะมีความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง และใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกราย ที่น่าหนักใจ คือต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน กับช่องทางนี้
ช่องทางที่ “ไม่ควรมองข้าม” เพราะทั้งลูกค้าและพนักงานต่างก็คุ้นเคยคือ “การขายทางโทรศัพท์ทั้งเชิงรับและเชิงรุก!” ช่วยได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน และหลายที่ ต่างกลับมาให้ความสำคัญกับช่องทางนี้อีกครั้ง เพราะช่วยแก้ปัญหาในส่วนที่ไม่สามารถไปพบลูกค้า หรือลูกค้าไม่สะดวกให้พบโดยไม่จำเป็น และแก้ปัญหาเรื่องจะใช้งบเพิ่มหรือเน้นช่องทางขายทาง Online ก็อาจไม่พร้อมหรือต้องใช้งบมากเกินไป เลยมาเน้นการขายทางโทรศัพท์ เพราะไม่ต้องใช้งบเพิ่ม!
ถึงแม้จะมีลูกค้าบางส่วนสะดวกติดต่อทาง Online แต่ก็มีลูกค้าหลายส่วนสะดวกติดต่อทั้ง Online ควบคู่ไปกับการติดต่อทางโทรศัพท์ และยังมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่ยังสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้
Part 4.สิ่งที่ทำได้ทันทีในช่วงนี้คือ การสร้างยอดขายทางโทรศัพท์....!?
แนวทางที่จะช่วยเพิ่มยอดขายในสภาวะปัจจุบันที่ควรเน้นคือ “จะเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์เชิงรับอย่างไร!?”
เพราะถึงแม้จะไม่มีสภาวะวิกฤติไวรัสก็ตาม รู้หรือไม่ว่า “ลูกค้าและรายได้” หายไปเท่าไหร่ในแต่ละวัน จากการติดต่อทางโทรศัพท์เชิงรับที่... ขาดประสิทธิภาพ!? ในช่วงนี้จำนวนและปริมาณการติดต่อของลูกค้าจะลดน้อยลงตามสภาวะปัจจุบัน เพราะฉะนั้นแต่ละรายที่ติดต่อมา ถ้าทีมรับขาดประสิทธิภาพ... อันนี้เรียกว่า วิกฤติในวิกฤติ! (ลูกค้าติดต่อมาน้อยลงอยู่แล้ว แต่พนักงานยังไม่สามารถสร้างรายได้จากลูกค้าที่ติดต่อมา!)
“จะเพิ่มยอดขายโดยใช้โทรศัพท์เชิงรุกอย่างไร!?”
จะโทรบริหารลูกค้าปัจจุบันให้ยังคงเป็นลูกค้าต่อเนื่อง จนกระทั่งผ่านพ้นวิกฤติอย่างไร?
จะติดต่อลูกค้าใหม่ในกลุ่มใดได้บ้าง เพื่อทดแทนการออกไปพบลูกค้า
ถ้าเป็นไปได้ ลองใช้ช่วงเวลานี้ฝึกการใช้ทักษะทางโทรศัพท์มากขึ้น / หรือแม้กระทั่งการสื่อสาร การโน้มน้าวผ่านข้อความทาง Line (ในกรณีที่มี Line ลูกค้า) เพราะแนวโน้มการติดต่อลูกค้าในสถานการณ์นี้ จะสื่อสารผ่านช่องทางโทรศัพท์ / Line / e-mail หรืออื่นๆ ที่ไม่ต้องพบหน้า
อดทนกันสักนิด อาจจะหลายเดือนหน่อย อย่างน้อย... ยังดีกว่าอยู่แบบจิตตก