ทวงสัญญา
อย่าถามว่าพลานุภาพของโควิด-19 รุนแรงแค่ไหน แค่เอาตัวให้รอดพ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาด ที่กำลังอาละวาด ระบาด ก็แสนจะลำบากมากพออยู่แล้ว คนไม่เป็นทำมาหากิน ธุรกิจหยุดชะงัก เดือดร้อนกันทั้งแผ่นดินจริงๆ
แต่ไม่น่าเชื่อ ในสถานการณ์ที่ควร จะช่วยกัน คนละไม้ละมือ เพื่อให้รอดจากโควิด-19 ไปด้วยกัน ประเทศไทยต้องชนะ กลับมีบริษัท “อสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่” แห่งหนึ่ง ยังไม่ทำตามสัญญา ที่ได้ประกาศต่อสาธารณชนไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ว่า แม้จะเพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่มีทั้งโรงแรมหรูหลายแห่ง มีอาคารสำนักงานให้เช่ามากที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกทม.และริมแม่น้ำเจ้าพระยายัง ไม่นับซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่แค่ “แอสเสท” 3 ธุรกิจนี้ ก็มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ขึ้นเป็นบริษัทระดับโลกสมชื่อ
จึงมีการทวงถามเข้ามาว่า การประกาศช่วยเหลือผู้เช่าอาคารสำนักงาน ด้วยการลดค่าเช่า 20% และ ลดค่าเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า 50% นั้น ของจริง หรือแค่ สร้างภาพ
เพราะผู้เช่าอาคารหลายราย เมื่อติดต่อกลับไปเพื่อขอใช้สิทธิ สิ่งที่ได้รับกลับมานั้น แตกต่างจากที่ประกาศต่อสาธารณะยิ่งนักขอไปก็ไม่มีการตอบรับ บ่ายเบี่ยงทุกช่องทาง
อดสงสัยไม่ได้ ที่ประกาศไปนั้น ทำได้จริงหรือไม่ หรือ แค่สร้างภาพให้ดูดี