พาณิชย์จับกุมขายหน้ากากอนามัยแพงเพิ่ม 5 ราย
โฆษกกระทรวงพาณิชย์” เผยจับผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงได้อีก 5 ราย ทั้งขายผ่านเฟซบุ๊กและร้านค้าทั่วไป ส่วนไข่ไก่ไม่พบผู้กระทำผิด หลังสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง
นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ได้เพิ่มอีก 5 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 4 ราย ได้แก่ ร้านค้า Online บน Platform Facebook 2 ราย เป็นการล่อซื้อและจับกุม พบขายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 750–770 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15-15.40 บาท จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดขายแพงเกินสมควร ร้านค้าทั่วไป 1 ราย กระทำความผิดในข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และอีก 1 ราย กระทำความผิดไม่แจ้งต้นทุน ปริมาณการผลิต และปริมาณคงเหลือ และในต่างจังหวัด 1 ราย คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นร้านค้าทั่วไป ซึ่งได้แจ้งข้อหากระทำความผิดขายเกินราคาควบคุมและขายแพงเกินสมควร
สำหรับสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ในภาพรวม มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 241 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 120 ราย และในต่างจังหวัด 121 ราย
ส่วนการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 1 เม.ย.2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม เพราะขณะนี้สถานการณ์ไข่ไก่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟาร์มผลิตไข่ไก่ ได้ส่งไข่ไก่ป้อนเข้าสู่ตลาด พ่อค้าคนกลาง มีไข่ไก่ส่งกระจายต่อไปยังผู้ค้ารายย่อย ทำให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อไข่ไก่ได้เป็นปกติ ทำให้ยอดจับกุมรวมตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-2 เม.ย.2563. ยังคงเดิมที่ 24 ราย
ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสุพพัตกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยล่าสุดมีรถธงฟ้า ที่ตะเวนออกจำหน่ายสินค้าในแหล่งชุมชน หมู่บ้านต่างๆ รวม 265 คัน โดยนำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันปาล์ม และเจลล้างมือ เป็นต้น ไปจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด และยังเพิ่มทางเลือกสำหรับประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำ ได้จัดส่งเรือธงฟ้านำสินค้าจำเป็นไปจำหน่ายถึงหน้าบ้านด้วย ส่วนในต่างจังหวัด ก็จะมีการดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้
สำหรับเจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ปริมาณการผลิตเริ่มมีมากขึ้นแล้ว หลังจากที่กรมสรรพสามิตปลดล็อกให้มีการนำแอลกอฮอล์มาใช้ได้ ทำให้ผู้ผลิตต่างๆ เริ่มมีการผลิตป้อนเข้าสู่ตลาด ส่วนปัญหาการขาดแคลนภาชนะบรรจุและหัวปั๊ม ก็มีการนำเข้าจากจีนเข้ามาแล้ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในช่วงนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ จึงขอให้ผู้ค้าสินค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเด็ดขาด และหากผู้บริโภคพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน และในต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด