“แอสเซทไวส์”ฝ่าพิษโควิด-19 เลื่อนเปิด4โครงการครึ่งปีหลัง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลกระทบธุรกิจต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องให้พนักงานบางส่วนทำงานที่บ้าน และติดตามสถานการณ์เป็นระยะ ทำให้การดำเนินธุรกิจไม่คล่องตัวเท่าที่ควร แต่ในส่วนของภาคธุรกิจก่อสร้างที่มีแรงงานประมาณ 1,500 คน ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ในการพยุงสถานการณ์่ให้แย่ไปมากกว่านี้

“ทุกคนกระทบกันหมด ไม่ใช่แค่อสังหาฯ แต่เรายังประคับประคองไม่ให้กระทบกับแผน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ตามแผน รวมถึงการพยุงธุรกิจที่เป็นซัพพลายเกี่ยวเนื่อง เช่น การดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จ”

เขายังระบุว่า ปัจจุบันยังคงยึดตามแผนเดิมที่ได้วางไว้ เบื้องต้นปี 2563 จะเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 4 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท แม้จะต้องเลื่อนไปเปิดในช่วงไตรมาส 3-4 ทั้งหมด ขณะที่ปี 2562 ที่ผ่านมา เปิดตัวโครงการ 7 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขณะเดียวกันในปี 2563 ยังมุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์ในเครือให้ชัดเจนและมีความแตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ ประกอบด้วย แอทโมซ (Atmoz) เป็นโครงการสไตล์รีสอร์ท เน้นโครงการเข้าซอย ในราคาที่จับต้องได้, โมดิซ (Modiz)เน้นโครงการปักธงตามแนวรถไฟฟ้า และ เคฟ (Kave) จับตลาดกลุ่มนักศึกษา เน้นโครงการที่อยู่ติดกับสถาบันการศึกษา เช่น รังสิต

“สถานการณ์โควิดในกรุงเทพฯ เริ่มดีขึ้น หากเทียบกับสถานการณ์ในต่างจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นแผนที่วางไว้ สำหรับแอสเซทไวส์ ยังเน้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยที่ยอดซื้อและยอดโอนกรรมสิทธิ์ยังทยอยเข้ามา ทั้งลูกค้าไทยและลูกค้าจีนก็กลับมาโอนฯในโครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15 และ พระราม9

นอกจากนี้ยังคงเป้าหมาย การยื่นแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (Filling)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงปลายปี 2563

เขายังมองว่าปี 2563 หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงภายใน 1-2 เดือน หรือครึ่งแรกของปี ก็จะมีโอกาสที่ทุกอย่างจะค่อยๆ กลับมาขับเคลื่อนโครงการได้ในปลายปี โดยทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการโอน เช่น ลูกค้าต่างชาติแถมแพ็คเกจเที่ยวไทย 2คืน 3 วัน