“พฤกษา”เร่งระบายสต็อก ชะลอเปิดตัวโครงการใหม่
พฤกษา เผยไตรมาสสองเบรกเปิดตัวโครงการใหม่ เน้นขายสต็อกสร้างเสร็จ รักษาสภาพคล่อง พร้อมอัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ลดค่าใช้จ่ายฝ่าวิกฤติโควิด
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท -บ้านเดี่ยวและคอนโด บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายรวมทั้งมาตรการรัฐที่ออกมาสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อด้วยการ ระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)แนวทางการทำตลาดจึงต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทันเวลา เพราะมาตรการที่ออกมาบางอย่างอาจเป็นข้อจำกัดที่มีผลต่อการซื้อขาย การทำธุรกรรมอสังหาฯได้ ไม่ว่าจะเป็นการปิดห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ส่งผลต่อกำลังซื้อที่หายไป รวมถึงการทำงานที่บ้าน ส่งผลให้ตัวเลขของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการลดลง
“สถานการณ์แบบนี้โอกาสจะเป็นของคนที่แก้เกมได้เร็วและดีกว่าคู่แข่งท่ามกลางดีมานด์ที่มีอยู่จริง ทั้งกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อลงทุน ที่มีความพร้อมในการซื้อ ในฐานะคนขายต้องปรับกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม แต่ละทำเล เพื่อระบายของที่มีอยู่ในมือออกไป (สต็อก) แทนที่จะรอเวลา เพราะอนาคตไม่แน่นอนสูง ”
นายปิยะ ระบุว่า ในไตรมาสสองนี้ บริษัทจะไม่เปิดตัวโครงการใหม่ แต่จะเน้นการขายสต็อกบ้านก่อสร้างเสร็จแล้วและอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเพื่อสร้างรายได้เข้าบริษัท และรักษาสภาพคล่อง โดยจัดแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักพร้อมกับการตัดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อเกิดรายได้ออก เพื่อประคองตัวให้รอดจากวิกฤติครั้งนี้
เนื่องจากวิกฤติครั้งนี้ยากกว่าวิกฤติ 40 เพราะเกิดจากเชื้อไวรัส ที่สร้างความหวาดกลัวกับผู้คน ทุกคนระมัดระวังการออกนอกบ้านการรวมกลุ่ม การไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย จึงกระทบทุกอุตสาหกรรมรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามในวิกฤติ ยังมีโอกาส ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่ค้นหาลูกค้าตัวจริงให้เจอ ยกตัวอย่าง พฤกษา มองเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุน
ทั้งนี้ความผันผวนในตลาดหุ้นทำให้นักลงทุนหันมาหาการลงทุนในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าและปลอดภัยกว่าในระยะยาว ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์นักลงทุนทั้งแบบปล่อยเช่า หรือซื้อเพื่อทำกำไร
“ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่จะได้ของดีราคาถูกเนื่องจากอสังหาฯเป็นทรัพย์สิน ที่ราคาไม่ลดลงเหมือนกับหุ้น ยิ่งถ้าโครงการดีแถมยังได้ราคาพิเศษด้วยถือว่าคุ้มค่าในการลงทุนยิ่งในเวลานี้ทุกค่ายพยายามระบายสต็อกที่มีอยู่ออกมาให้ได้มากที่สุด ”
ในส่วนของบริษัทได้ขยายไปจับกลุ่มนักลงทุนที่มีกำลังซื้อที่ต้องการย้ายเงินลงทุนจากการลงทุนในพันธบัตร ,ตลาดหุ้น มาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการนำเสนอโครงการพลัม อไลฟ์ รังสิต ซึ่งเป็นคอนโดโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และโครงการพลัม คอนโด พหลโยธิน 89 ติดถนนใหญ่ ใกล้เมืองเอก อัตราผลตอบแทนจากการเช่า(Rental Yield) 7% ออกมานำเสนอในกลุ่มนักลงทุนระดับราคา 1-2 ล้านบาท ย่านมหาวิทยาลัย ที่มีความต้องการจากกลุ่มนักศึกษาและมีอัตราการเช่าสูงถึง70%ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ ที่เป็นนักศึกษา คนที่อาศัยหรือทำงานในย่านรังสิต เมืองเอก สรงประภา และในพื้นที่ใกล้เคียง