SAWAD - ขาย
มีความเสี่ยงที่ยีสด์สินเชื่อจะถูกกดดัน
Event
ประมาณการ 1Q63
lmpact
มีความเสี่ยงที่ yield จะถูกกดดันมากกว่าบริษัทอื่น ๆ
SAWAD ได้เสนอความช่วยเหลือลูกตามที่ธปท.แนะนำ โดยใช้เกณฑ์เดียวกันนอนแบงก์อื่นคือ 1.) เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปสามเดือน 2.) ลดยอดผ่อนค่างวดลง 30% เป็นเวลาหกเดือนและในขณะเดียวกัน บริษัทก็ยื่นขอเงินกู้เบี้ยต่ำ (soft loan) จากธนาคารออมสิน ด้วย นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้แล้ว เรายังเป็นห่วงประเด็นที่บริษัทอาจจะต้องลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคลงเหลือ 22% (จากเดิมที่ 28%) ซึ่งในกรณีนี้ผู้ประกอบการแบงก์ และนอนแบงก์อื่นๆ ได้มีการปรับลด ซึ่งหากมีการปรับลดในส่วนนี้จะส่งผลกระทบกับ SAWAD มากกว่าบริษัทอื่น ๆ เพราะในปัจจุบัน สินเชื่อประมาณ 33% ของพอร์ตสินเชื่ออยู่ภายใต้ BFIT ซึ่งคิดดอกเบี้ย 36% โดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ใช้ที่ดินเป็นหลักประกัน (land for cash) การโตในสินเชื่อประเภทนี้ทำให้ ยีสด์ สินเชื่อของพอร์รวมของ SAWAD สูงถึง 28-29% (รวมค่าธรรมเนียม) ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 22% เท่านั้น ถ้าหาก ธปท. แนะนำให้ลดยีสด์ลงก็จะกดดันให้ SAWAD ต่องลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อลงก่อน ซึ่งจากการวิเคราะห์ sensitivity เราพบว่ายีสด์ที่ลดลงทุก ๆ 1% จะทำให้กำไรลดลงประมาณ 5-6%
ยิ่งยอดปล่อยกู้ต่อรายสูง ก็ยิ่งทำให้ความเสี่ยงต่อคุณภาพสินทรัพย์เพิ่มขึ้น
SAWAD เน้นปล่อยสินเชื่อวงเงินสูง โดยสินเชื่อ land for cash ส่วนใหญ่จะปล่อยกู้ในวงเงิน >10 ล้านบาท/บัญชี และสินเชื่อ car for cash วงเงินประมาณ 100,000 บาท/บัญชี ในขณะที่สินเชื่อวงเงินต่ำในกลุ่มมอเตอร์ไซค์คิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำในพอร์ตสินเชื่อ ทั้งนี้ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เรามองว่าสินเชื่อวงเงินสูง โดยเฉพาะ land for cash มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็น NPL มากกว่าสินเชื่อวงเงินต่ำ ทั้งนี้ในปัจจุบัน SAWAD ไม่มีส่วนรองรับหนี้เสีย โดยสัดส่วน NPL อยู่ที่ 3.8% และสัดส่วน NPL coverage อยู่ที่ 57% ดังนั้น ถ้าหากสัดส่วน NPL เพิ่มเป็น 6% ก็จะทำให้บริษัทต้องตั้งสำรองเพิ่มอีกเท่าตัวในปี2563 ซึ่งจะทำให้กำไรไม่โตในปี 2563
คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q63F จะอยู่ที่ 880 ล้านบาท (-20% QoQ, +4% YoY)
ประมาณการกำไรใน 1Q63F ของเราใช้สมมติฐานสินเชื่อที่ +20% YoY ยีสด์สินเชื่อลดลง 100bps YoY เหลือ 26.9% ค่าใช้จ่ายสำรองฯ/ต่อสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 200bps (จาก 140bps ใน 4Q62 และ76bps ใน 1Q62) เราคาดว่ากำไรจะลดลงอย่างมาก QoQ จากฐานกำไรที่สูงใน 4Q62 เพราะมีกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจในเวียดนาม และรายได้อื่น
คงคำแนะนำ ขาย และให้ราคาเป้าหมายปี 2563F ที่ 49.00 บาท (P/E ที่ 18.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว)
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2563/64 โดยใช้สมมติฐานสินเชื่อปี 2563-64 ที่ 20%/20% yield สินเชื่อลดลงเหลือ 26.4%/26.4% (จาก 27.5-28% ในปี 2562) credit cost ที่ 200bps/195bpd (จาก 148bps ในปี 2562)
Risks
ขาดสภาพคล่อง สัดสว่น NPL >6% credit cost >200bps และไม่ได้ soft loan