'โควิด'นิวนอร์ดิสรัปคอนโด พลิกดีมานด์สู่ทาวน์โฮม
“Work from Home” หนึ่งในบรรทัดฐานใหม่ (New Normal) หลังยุคโควิด-19 กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนตลาดคอนโดมิเนียม เมื่อผู้คนโดยเฉพาะวัยทำงาน อาจไม่จำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ติดแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปทำงานอีกต่อไป
“Work from Home” หนึ่งในบรรทัดฐานใหม่ (New Normal) หลังยุคโควิด-19 กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนตลาดคอนโดมิเนียม เมื่อผู้คนโดยเฉพาะวัยทำงาน อาจไม่จำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ติดแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปทำงานอีกต่อไป นั่นเพราะการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้หลายบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้านมากขึ้น กลายเป็นอานิสงส์ของตลาดทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ที่น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้นจากนี้
ข้อมูลจาก AREA ระบุว่า ภาพรวมมูลค่ายอดขาย ทุกประเภทอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ลดลง 21% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยยอดขายที่ลดลงมากที่สุดคือคอนโด ลดลง 29% ส่วนแนวราบ ลดลง 11% แบ่งเป็น บ้านแฝด ลดลง 25% บ้านเดี่ยว ลดลง 9% และทาวน์โฮม ลดลง 8% ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาตลาดทาวน์โฮม ค่อนข้างได้รับความนิยม ทำให้มียอดขายติดลบน้อยที่สุด
โดยตลาดทาวน์โฮม ในปี 2562 พบว่ามีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 80,046 ล้านบาท เบอร์1ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากสุด ได้แก่ ค่ายพฤกษา ของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ตามมาด้วยค่ายโกลเด้นแลนด์ ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี
ภวรัญชน์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮม และโครงการบ้านเดี่ยว บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเดนซ์ จำกัดบริษัทในเครือบมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ประเมินว่า ภาพรวมรวมตลาดอสังหาฯปีนี้จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากโควิด-19 ทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯจะติดลบไม่ต่ำกว่า30% จากการที่คนชะลอการตัดสินใจซื้อ
อย่างไรก็ตามเห็นว่า ผู้บริโภคในกลุ่มเรียลดีมานด์ (ความต้องการที่แท้จริง) มีแนวโน้มจะหันมาซื้อทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดดังกล่าว ในปีนี้ เป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคอนโดน่าจะหันมาซื้อทาวน์โฮมระดับราคา3ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่ใกล้เคียงกับคอนโด แต่ได้พื้นที่เพิ่มขึ้น มีที่จอดรถส่วนตัว ทำครัวได้ ซึ่งสามารถแก้ปัญหา (Pain Point) ของคนอยู่คอนโด
สมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติทำให้เกิดนิวนอร์มอล ไลฟ์สไตล์จากการทำงานที่บ้าน จากวิกฤติโควิดจะทำให้ทุกคนเห็นปัจจัยอื่นๆที่นอกเหนือจากทำเล ที่ตั้งของที่อยู่อาศัยว่า ต้องใกล้ที่ทำงานเท่านั้น เพราะปัจจุบันเทคโนโลยี เข้ามาช่วยให้คนทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เมื่อก่อนที่คนนิยมซื้อคอนโดในเมืองเพื่อใกล้ที่ทำงาน แต่วันนี้ อาจจะรู้สึกกังวลกับการใช้ลิฟท์ร่วมกัน การทำอะไรที่ต้องแชร์ริ่งร่วมกันในคอนโด เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อไวรัส ทำให้คนกลุ่มหนึ่งปลี่ยนใจมาซื้อทาวน์เฮ้าส์แทนที่จะซื้อคอนโด”
สมนึก ยังมองว่า การมาของโควิดมีผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ที่เกิดการพลิกจากการอยู่คอนโดในเมืองไป อยู่บ้านชานเมืองหรือนอกเมืองในต่างจังหวัดไปเลยก็เป็นไปได้ ส่วนหนึ่งเกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยที่กลายเป็นปัจจัยหลักที่คนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก และเทคโนโลยีเข้าสนับสนุนในการตัดสินใจ เพราะไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าบ้านของตนเอง
“เวลานี้อิมโมชันนัล และฟังก์ชันนัลที่ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยเวลาที่อยู่บ้านมากกว่าอยู่คอนโด ซึ่งเกี่ยวข้องในเชิงจิตทวิทยาที่เข้ามามีบทบาทมากข้นในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย นอกเหนือจากปัจจัยด้านความสะดวกในการเดินทางและสเต็ปต่อมาก็คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การอยู่บ้านทำให้คนใช้เวลากับการเดินทางน้อยลง โดยที่ประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้ลดลง”
ชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดนิวนอร์มอล ไลฟ์สไตล์จากการทำงานที่บ้าน ทำให้คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศอย่างอาชีพ ดีไซเนอร์ โปรแกรมเมอร์ ฯลฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่คอนโดระดับราคา 3 ล้านบาท อาจถูกดึงกำลังซื้อไปยังตลาดทาวน์เฮ้าส์ ที่คนทำงานและมีครอบครัวแล้วที่ต้องการพื้นที่เพิ่ม
แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนเพิ่มเริ่มทำงานอาจต้องการความสะดวกสบายและสีสันในเมืองยังคงซื้อคอนโด นั่นหมายความว่า ตลาดคอนโดปีนี้จะถูกมรสุมจากหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อยอดขายรุนแรง นอกจากเหนือจากภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อแล้ว ดีมานด์ ยังถูกตลาดทาวน์เฮ้าส์แย่งส่วนตลาดไปอีกด้วย