ผู้พิการร้องคลังเยียวยา 5 พันบาท

ผู้พิการร้องคลังเยียวยา 5 พันบาท

ม็อบผู้พิการกว่า50รายร้องคลังเยียวยาเงิน 5 พันบาท ระบุ คนพิการส่วนใหญ่ใน 2 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการดังกล่าวได้ ขณะที่ ปลัดคลังชี้กระทรวงพม.จะเป็นผู้พิจารณามาตรการช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 เม.ย. 2563) ผู้แทนสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ผู้แทนสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย และผู้แทนสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทยประมาณ 50 ราย ได้ยื่นหนังสือต่อกระทรวงการคลัง เรื่อง ขอให้คนพิการเข้าถึงมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยเฉพาะเงินชดเชยรายได้ 5,000 บาท 3 เดือน โดยมี นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน

 

ตามที่รัฐบาลออกมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบโควิด-19ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมระยะที่ 2 แต่คนพิการส่วนใหญ่จากจำนวนคนพิการทั้งหมด 2 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการเงินเยียวยา 5,000 บาทได้ อาทิ กรณีกลุ่มคนพิการผู้ค้าสลากที่ค้าสลากจริงแต่ไม่มีรายชื่ออยู่ในระบบโควตาของรัฐบาล หรือกลุ่มหมอนวดพิการที่มีชื่ออยู่ในมาตรา 33 ของกฎหมายว่าตัวยการประกันสังคม แต่ปัจจุบันไม่สามารถประกอบอาชีพนวดได้แล้ว ไปจนถึงครอบครัวและผู้ดูแลคนพิการที่ต้องดูแลด็กพิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่ไม่เข้าเกณฑ์การเยียวยา เป็นตัน

 

อีกทั้งมาตรการระยะที่ 3 และพระราชกำหนด กลับไม่ปรากฏถึงคนพิการแม้แต่ตัวอักษรเดียว และไม่มีถ้อยคำใดที่ทำให้เชื่อได้ว่าคนสามารถจะเข้าถึงมาตรการเยียวยาดังกล่าวได้ ยืนยันให้เห็นชัดเจนว่า คนพิการและครอบครัวถูกทิ้งไว้ข้างหลัง สภาคนพิการฯ และภาคีเครือข่ายด้านคนพิการ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ 5 ประการ ดังนี้

 

1.ขอให้รัฐบาลปรับปรุงมาตรการฯ ระยะที่ 2 โดยเฉพาะมาตรการชดเชยรายได้รายละ 5,000 บาท ที่ควรปรับเปลี่ยนวิธีการที่มุ่งเน้นการคัดครองคนที่ไม่ควรได้รับความช่วยเหลือออก เป็นการใช้วิธีการที่จะทำให้ประชาชนทุกคนทุกกลุ่มได้เข้าถึงมาตรการช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญต้องสร้งหลักประกันให้คนพิการสามารถเข้าถึงมาตรการดังกล่าวได้โดยสะดวกเช่นเตียวกับประชาชนทั่วไป ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ และยึดหลักการการผนวกรวมคนพิการในการช่วยเหลือเยียวยากระแสหลัก และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยการจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้แก่

คนพิการทุกคนรายละ 5,000 บาทต่อเนื่อง 3 เดือน (คนพิการ 2 ล้านคน งบประมาณ 30,000 ล้านบาท)

 

2.ขอให้รัฐบาลสร้างหลักว่ามาตรการดูแลและเยียวยาฯ ระยะที่ 3 พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ รวมถึงแผนงานและโครงการตามบัญชีท้ายพระราชกำหนด จะต้องมีการวางแผนใช้งบประมาณเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด โปรใสที่สุด โดยเฉพาะสมาคมคนพิการจะต้องสามารถเข้าถึงได้อย่างถ้วนหน้าทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และต่อเนื่อง รวมทั้ง ให้องค์กรด้านคนพิการมีส่วนร่วมในการออกแบบและติดตามมาตรการ แผนงาน และโครงการดังกล่าวด้วย

 

3.ขอให้รัฐบาลอกมาตรการช่วยลดค่าไฟฟ้า 3 เดือนให้แก่คนพิกาทุกครัวเรือน ทั้งกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีมิเตอร์ไฟขนาดไม่เกิน 5 แอมป์และเกิน 5 แอมป์ หากใช้ไม่เกิน 3,000 หน่วย ให้ใช้ไฟฟ้าฟรี

 

4.ขอให้รัฐบาลออกมาตรการให้คนพิการสามารถรับเบี้ยความพิการล่วงหน้าได้จำนวน 10 เดือนตามความสมัครใจ

 

5.ขอให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เร่งปฏิบัติตามมติคกก.คนพิการแห่งชาติ โดยการโอนเงินจากกองทุนคนพิการให้คนพิการที่มีบัตรทุกคน คนละ 1,000 บาท โดยเร็ว

 

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า สำหรับผู้พิการและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางทางสังคมนั้น ขณะนี้ ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการเยียวยาเพิ่มเติม