SVI - ถือ
ผลประกอบการ 1Q63: กำไรจากธุรกิจหลักตํ่าเกินคาด
Event
กำไรสุทธิของ SVI ใน 1Q63 อยู่ที่ 226 ล้านบาท (+174% YoY, +696% QoQ) สูงกว่าประมาณการของเรา และ Bloomberg consensus ถึงกว่า 200% จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 160 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 67 ล้านบาท (-29% YoY, +77% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 7% เนื่องอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีเกินคาดถูกหักล้างไปด้วยค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงเกินคาด ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q63 คิดเป็น 23% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
lmpact
ยอดขายในสกุลดอลลาร์อยู่ระดับปกติ
ยอดขายของ SVI อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (-18%YoY, +1%QoQ) ใน 1Q63 แต่หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายจะลดลงมาอยู่ที่ 103 ล้านเหรียญดอลลาสหรัฐ (-17%YoY, -3%QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 5% และคิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 405 ล้านเหรียญดอลลาสหรัฐ
อัตรากำไรขั้นต้นยังดีอยู่ที่ 9.0%
อัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q63 อยู่ในระดับที่ 9.0% (+2.7ppts YoY และ +4.4 ppts QoQ) ดีกว่าประมาณการของเราที่ 6.6% (สมมติฐานทั้งปีที่ 6.8%) จาก i) เงินบาทอ่อนค่าที่ 31.2 บาท/US$ ใน 1Q63 (จาก 29.9 บาท/US$ ใน 4Q62 และ 31.4 บาท/US$ ใน 1Q62) ii) สัดส่วนสต็อกที่ต้นทุนสูงลดลง (จำนวน inventory day 96 วันใน 4Q62 จาก 99 วันใน 4Q61) และ iii) product mix (สินค้าอุตสาหรรม และ networking คิดเป็น 66% ของยอดขายใน 1Q63 เทียบกับ 4Q62 ที่ 55% และ 1Q62 ที่ 63%)
อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาทหักล้างไปกับยอดขายที่แผ่วลง
เราคาด SVI จะได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท แต่อาจถูกหักล้างไปด้วยการประหยัดต่อขนาดที่ลดลงตามยอดขายที่ลดลง ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้ที่ 9.0% เหมือนใน 1Q63 ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากผลประกอบการ 1Q63 คิดเป็น 23% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงคงประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2563 ที่ 287 ล้านบาท ด้วยสมมติฐานยอดขาย 405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 6.8%
Valuation & Action
เรายังคงมองว่าแนวโน้มระยะยาวของอุตสาหกรรมเป็นขาขึ้นจากกระแส 5G, AI และ IoT แม้ว่าจะเกิด disruption กับ supply chain ขึ้นในระยะสั้น เราให้ premium ในการประเมินราคาหุ้น SVI เพื่อสะท้อนถึงวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรม โดยใช้ PER ที่ 16.5X (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +0.25 S.D.) ได้ราคาเป้ าหมาย 1H64 ที่ 2.40 บาท แต่เนื่องจากราคาหุ้นไม่เหลือ upside แล้ว เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ”
Risks
ภัยธรรมชาติ การปิดโรงงานนอกแผน ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น เงินบาทแข็งค่า (เราใช้สมมติฐานค่าเงินบาทปี 2563-64 ที่ 31.90 บาท/US$) และความล่าช้าในกระบวนการทดสอบสินค้า