ส่องอาณาจักร ‘ชุดนักเรียน’ สมรภูมิร้อน รับเปิดเทอม!
เช็คอุณหภูมิสมรภูมิ "ชุดนักเรียน" รับเทศกาลเปิดเทอม รายใหญ่อย่าง "ตราสมอ" และ "น้อมจิตต์" เตรียมไม้เด็ดใดบ้างมาสู้ศึกในครั้งนี้ !?
ด้วยมรสุมของพายุเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 เสี่ยงกระทบต่อสุขภาพของทุกคน จึงทำให้รัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศเคอร์ฟิว รวมถึงประกาศปิดสถานที่เสี่ยงที่มีคนพลุกพล่าน แออัด หนึ่งในสถานที่ที่ถูกสั่งปิด คือ สถานศึกษา จึงทำให้ภาคการศึกษาต้องเลื่อนเปิดเทอมออกไป
แต่ด้วยสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยดีขึ้น แนวโน้มที่สถานศึกษาต่างๆ จะกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในลักษณะ New Normal ชัดเจนขึ้น โดยหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 1 ก.ค.2563 ก็จะเป็นวันเปิดภาคเรียนของเด็กไทยในปีนี้ เพียงแต่รูปแบบการเรียนอาจเป็นได้ทั้งแบบออนไลน์ และการได้ไปโรงเรียนจริงภายใต้เงื่อนไข new normal ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และคำสั่งจากภาครัฐที่ยึดหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญ
วันนี้ เราจึงได้เห็นภาพเหล่าผู้ปกครองจูงมือลูกหลานไปเลือกซื้อชุดนักเรียนกลับมาอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ร.ร.อุดมดรุณี เข้ม 6 มาตรการ ป้องกันโควิด-19 เปิดเทอมต้องปลอดภัย
- ‘ยกเลิกเคอร์ฟิว’ มีผล 5 ทุ่มวันนี้ กำหนดข้อปฏิบัติเคร่งครัด ออกนอกบ้านสวมหน้ากาก
- อัพเดทสถานการณ์ 'โควิด-19' จากไวรัสโคโรน่า (14 มิถุนายน 2563)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้วิเคราะห์สถานการณ์ช่วงเปิดเทอมใหม่ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และสะท้อนภาพบรรยากาศการใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วง เปิดเทอมปี 2563 แตกต่างจากปีก่อนๆ วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ปกครองบางกลุ่มที่ภาคธุรกิจต้องปิดตัว ซึ่งนับเป็นช่วงยากลำบากของผู้ปกครองในมุมของการใช้จ่ายเพื่อการศึกษา เพราะกว่า 88.9% กังวลต่อสภาพคล่องทางการเงินที่นำมาใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม เช่น เงินออมไม่เพียงพอ
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ในช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ ผู้ปกครองในกรุงเทพและปริมณฑลอาจต้องใช้จ่ายสำหรับด้านการศึกษา ซึ่งรวมตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษากว่า 28,260 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เท่านั้น เพราะผู้ปกครองมีการลดค่าใช้จ่ายลง ซื้อเฉพาะเท่าที่จำเป็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายเครื่องแบบนักเรียนอย่างแน่นอน
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จะพาไปสำรวจ "ตลาดชุดนักเรียน" นำโดยสองรายใหญ่ คือ "ตราสมอ" และ "น้อมจิตต์" กันว่า ในสมรภูมิเครื่องแบบชุดนักเรียนมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาทนี้ แต่ละรายเตรียมกลเม็ดใดไว้สู้ศึกบ้าง?
- ตราสมอ
หนึ่งในแบรนด์ชุดนักเรียนที่หลายคนนึกถึง คือ “ตราสมอ” ภายใต้บริษัท สมอทองการ์เมนท์ จำกัด ที่ออกสโลแกนสั้นๆ แต่ติดหู นั่นก็คือ ใส่สมอ ...เท่เสมอ รวมถึงโลโก้ที่เป็นรูปสมอเรือจดจำได้ง่าย คงเป็นแบรนด์ที่เด็กนักเรียนหลายเป็นลูกค้า ซึ่งตราสมอนั้นก่อตั้งมานานกว่า 63 ปีแล้ว แต่เริ่มจดทะเบียนราวปี 2526 ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 130 ล้านบาท
แน่นอนว่าสินค้าหลักก็คือชุดนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษา และยังรวมถึงกลุ่มนักเรียนนักศึกษาสายอาชีพ ชุดยุวกาชาด ชุดเนตรนารี ชุดลูกเสือ และชุดพละ นอกจากชุดนักเรียนสายสามัญแล้ว ตราสมอยังเจาะกลุ่มเครื่องแบบนักเรียนเฉพาะ เช่น โรงเรียนนานาชาติด้วย และยังแตกไลน์โปรดักต์ที่หลากหลายครอบคลุมในกลุ่มนักเรียนมากขึ้น เช่น ถุงเท้านักเรียน ทำให้ปัจจุบันตราสมอมีสินค้ามากกว่า 2,000 SKU
สิ่งหนึ่งที่ตราสมอชูกลยุทธ์คือ เรื่องของคุณภาพทั้งวัตถุดิบและกระบวนการผลิตทั้งหมด ที่ทำให้คุณภาพคงทน ใช้กระบวนการเผาขนทำให้เนื้อผ้าไม่มีเส้นขนเล็กๆ เสื้อขาวไม่ดักจับฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงสีสันสดใส ไม่หมองง่าย
ทำให้ปี 2561 ชุดนักเรียนตราสมอ มีรายได้รวมกว่า 595.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 11.67% โดยปี 2560 มีรายได้รวม 533.33 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 2561 อยู่ที่ 16.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.07% จากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิราว 15 ล้านบาท
- น้อมจิตต์
อีกหนึ่งแบรนด์ที่นักเรียนหลายคนคุ้นเคย นั่นก็คือ ชุดนักเรียนแบรนด์ “น้อมจิตต์” ภายใต้บริษัท น้อมจิตต์ แมนนูแฟกเจอร์ริ่ง จำกัด ที่ก่อตั้งโดย “น้อมจิตต์ จิตรมีศิลป์” ซึ่งปัจจุบันกำลังก้าวย่างสู่ปีที่ 59 จากทุนจดทะเบียนราว 25 ล้านบาท ตอกย้ำกลยุทธ์การเจาะตลาดชุดนักเรียนที่นับว่าเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับภาคการศึกษา คือ การผลิตเครื่องแบบนักเรียนที่หลากหลาย ครบทุกโรงเรียน รับบริการปักตามระเบียบของแต่ละโรงเรียน รวมถึงรับจ้างผลิตให้กับโรงเรียนโดนเฉพาะด้วย
ตอกย้ำมอตโต้ "ใส่เลย ไม่ต้องคิด ชุดน้อมจิตต์ ฮิตได้เลย" แบรนด์น้อมจิตต์ก็ยังออกโปรดักต์ใหม่ๆ มี "นวัตกรรม" เป็นตัวชูโรงเพื่อแก้ pain point ต่างๆ โดยเฉพาะการตอบโจทย์นักเรียนในสภาพอากาศร้อนเหงื่อตกอย่างบ้านเรา น้อมจิตต์ส่งจุดขาย Aircool ที่ชูจุดเด่น 4 ข้อ จากนวัตกรรม Micro Nova ทั้ง Cooling Technology ที่จะช่วยระบายอากาศได้ดีขึ้น, Soft Touch เนื้อผ้านุ่ม, Anti-See Through เป็นการออกแบบให้ไม่สามารถทะลุเนื้อผ้าได้ ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจให้กับนักเรียนในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น
แถมยังมี UV Blocking เป็นการนำเทคโนโลยีของเส้นด้ายแบบใหม่ ที่สามารถสะท้อนแสง UV ได้ดีอีกด้วย
ส่วนชุดลูกเสือ เนตรนารี ที่นำเอาเทคโนโลยีผ้าแบบ nano zinc ที่นอกจากคุณสมบัติจากนวัตกรรม Aircool แล้ว ยังเพิ่มฟังก์ชั่น "ลดกลิ่นอับชื้น" ด้วย
รวมถึงการใช้ช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ค ไลน์แอด และ Shopee นอกเหนือจากช่องทางขายทางโทรศัพท์ และร้านจำหน่ายตามสาขาหลักๆ 4 แห่ง ได้แก่ สาขาบางกะปิ N-Mark สาขาบางลำภู สาขาแฟชั่น ไส์แลนด์ และสาขาบางกระบือ รวมถึงร้านค้าอื่นๆ
โดยปี 2561 ชุดนักเรียนน้อมจิตต์มีรายได้รวม 110.16 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 4.17% ที่มีรายได้รวม 114.96 ล้านบาท ขณะที่หากดูในส่วนของกำไรสุทธิ ปี 2561 อยู่ที่ 2.30 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3.67%
นอกจากนี้ในท้องตลาด ยังมีแบรนด์ชุดนักเรียนอีกหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Topson แสงทอง ชัยรัตน์ สมาเตอร์ สหมิตรเซ็นเตอร์ ศรีภัณฑ์ ทรงศิริ วัชรากร สมใจนึก เทเวศร์ ชนินทร์อาภรณ์ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ธุรกิจการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมวิชาชีพนักเรียนและนักศึกษาในปัจจุบันมีอยู่ 192 ราย (รหัสประเภทธุรกิจ : 14111)
อ้างอิง :