เซ็นทรัลปักหมุดรอบทิศยึดทำเลทอง ‘บางนา-ตราด’

นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ห้างเซ็นทรัล ได้ส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับให้ลูกค้าในย่านบางนา-ตราด โดยพร้อมเปิดให้บริการ “ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา” วันที่ 2 ก.ค. นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพสูง ชอบพาครอบครัวมาใช้ชีวิตภายในห้าง 

พร้อมยกทัพสินค้าทั้งแบรนด์ไทย-แบรนด์อินเตอร์ (International brand) รวมถึงแบรนด์ใหม่ยอดนิยมกว่า 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามามอบความพิเศษในปีนี้ รวมกว่า 1,000 แบรนด์ อาทิ Chanel, Dior, Nars, Sisley, Dyson, Nine West, Steve Madden, Cath Kidston, Tommy Hilfiger, MLB, Fila รวมถึงสินค้า Only@Central ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัล อาทิ Dorothy Perkins, Sfera, Miss Selfridge และแบรนด์ Exclusive อย่าง Sanrio และ Smiggle

อย่างไรก็ดี การเปิดบริการวันที่ 2 ก.ค. เป็นการทยอยปรับปรุงพื้นที่ในเฟสแรก (Minor renovation) เนื่องจากห้างเซ็นทรัลมีแผนศึกษาเพื่อที่จะขยายขนาดพื้นที่สาขาร่วมกับศูนย์การค้าเมกาบางนา  เตรียมทำการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่อีกครั้ง ในช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2564 เพื่อส่งมอบบริการสะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกครอบครัวให้สามารถมาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเสมือนบ้านหลังที่ 2

• บางนาตราดย่านเศรษฐกิจศักยภาพสูง

ปัจจุบัน พื้นที่ย่านบางนา-ตราด ถือเป็นทำเลทองเพราะเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ทั้งยังเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเชื่อมต่อหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเป็นหน้าด่านก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ในอนาคตอันใกล้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะเป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ 

นอกจากนี้ ยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก มีโครงการบ้านจัดสรรมากถึง 18 โครงการ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เดินทางเพียง 25 นาที ทั้งจำนวนประชากรในย่านนี้ มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

การดำเนินธุรกิจของเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล อยู่บนพื้นฐานการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป็นสำคัญ การคัดสรรแบรนด์ที่ห้างเซ็นทรัลนำเข้ามา จึงเป็นการตอบโจทย์ทั้งความต้องการสินค้าแบรนด์คุณภาพ และกำลังซื้อที่สูงขึ้น ห้างเซ็นทรัลเป็นแบรนด์ห้างสรรพสินค้าที่แข็งแกร่งครองใจลูกค้าคนไทยมากกว่า 70 ปี และเป็นที่น่าเชื่อถือของนักท่องเที่ยวต่างชาติมายาวนาน การันตีด้วยรางวัลต่างๆ ที่ได้รับทั้งในประเทศไทย และบนเวทีโลก

• เฟสแรกลงทุน 50 ล้านบาท หวังดันยอดขายโต 20%

สำหรับเฟสแรกนี้บริษัทได้ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในการตกแต่ง ปรับโฉมใหม่ งบประมาณการตลาด ส่งเสริมการขาย กิจกรรม โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิดให้บริการจะสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 20% ภายในปี 2564

โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา จะเน้นกลุ่มคนไทยที่เป็นคนทำงาน และครอบครัวคนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และอาศัยในย่านนี้ ซึ่งจะต่างกับกลุ่มเป้าหมายของ “ห้างเซ็นทรัลบางนา” ที่จะเน้นกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่มีหลายเจนเนอร์เรชั่น 

“ฐานข้อมูลบัตรเดอะวัน เป็น Big Data ที่แข็งแกร่ง กว่า16 ล้านคน ทำให้เราเห็นถึงความต้องการ และกำลังซื้อของลูกค้า จึงได้นำแบรนด์ใหม่ๆเพิ่มเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกช้อป”

ภายในห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา ยังมีความทันสมัยและอบอุ่น เหมาะกับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัยมี โดยมี 3 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 13,000 ตร.ม. มีสินค้าชั้นนำทั้งไฮ-เอนแบรนด์ในประเทศ แบรนด์อินเตอร์นำเข้า แบรนด์ Only@Central รวมถึงแบรนด์ใหม่ยอดนิยมอีกกว่า 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามาเสริมทัพในปีนี้ รวมกว่า 1,000 แบรนด์

• ปรับรูปแบบการขายใหม่

นางณัฐธีรา กล่าวเสริมด้วยว่า ห้างเซ็นทรัลยังได้มีการปรับรูปแบบการขายแบบใหม่ มีบริการ ‘CENTRAL ANYTIME ANYWHERE‘ โดยปรับตามพฤติกรรมของลูกค้า ที่นิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยจะเห็นว่าให้บริการตอบรับลูกค้าแบบ 360 องศา เป็นออมนิชาแนลอย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อมต่อออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ ผ่านบริการรูปแบบต่างๆ ที่ลูกค้านิยม เช่น ช้อปปิ้งผ่านเว็บไซต์ www.central.co.th ที่เราฟอร์มทีมอย่างแข็งแกร่งมาตั้งแต่ ปี 2014 มีช่องทางขายผ่าน Facebook Live ที่เพจเฟซบุ๊กห้างเซ็นทรัล มีบริการ Central Chat & Shop ช้อปผ่านแอปพลิเคชั่น Line ที่ @CENTRALOFFICIAL, บริการ Central Call & Shop ให้ช้อปปิ้งโดย โทร.02-793-7555 พร้อมบริการใหม่! Drive Thru บริการรับสินค้า และชำระเงินง่ายๆ โดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงบริการ E-Ordering และบริการ Click and Collect บริการสั่งของออนไลน์ ที่สามารถมารับได้ที่หน้าร้าน ซึ่งทั้งหมดนี้เรายังคงมีบริการอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการที่ห้างเซ็นทรัล ยังอุ่นใจได้กับมาตรการ ‘Central Clean & Safe’ ในคอนเซปต์ ‘ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน’ ครอบคลุม 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้มด้านสุขอนามัย ตามมาตรฐานของภาครัฐ เพื่อให้ลูกค้ามาช้อปได้อย่างสะอาด ปลอดภัยไร้กังวล เชื่อว่าด้วยความพร้อมทั้งหมดที่กล่าวมา จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่าย และหนุนเสริมเศรษฐกิจในย่านนี้ ให้มีความคึกคักมากขึ้น

 

• โรบินสันปรับบิสสิเนสโมเดลใหม่ 

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสิ้น 51 สาขา ซึ่งนับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีจำนวนสาขามากที่สุด และครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ มีพื้นที่ขาย รวมทั้งสิ้น 583,300 ตร.ม. ซึ่งกว่า 40 ปี ของโรบินสัน ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี มีผลประกอบการเป็นที่พอใจ และมีการพัฒนาธุรกิจรวมถึงการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

ที่สำคัญในปีนี้ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ในฐานะบริษัทแม่ ที่มีประสบการณ์ในการบริหารค้าปลีกมายาวนาน ได้วางโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลใหม่ (New Central New Retail) ทำให้ CRC เป็นผู้นำค้าปลีกที่มี “ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์” รวมกันมากที่สุดถึง 74 สาขา ประกอบด้วย ห้างเซ็นทรัล 23 สาขา และ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 51 สาขา 

ตามแผนงานในการพัฒนาธุรกิจ CRC ได้มีการปรับบิสสิเนสโมเดลใหม่ (New Business Model) ให้สอดรับกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ โดยมีการปรับรูปแบบของธุรกิจใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนตราสัญลักษณ์และยกระดับภาพลักษณ์ใหม่ของ “โรบินสัน” และ “ห้างเซ็นทรัล” ในบางสาขา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว 

ปีนี้ จะเริ่มปรับสาขาแรกคือ “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เมกาบางนา” ซึ่งสาขานี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ได้มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับการเปิดศูนย์การค้าเมกา บางนา (เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555) ซึ่งนับเป็นสาขาที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งอยู่ในศูนย์กลางชุมชนที่ทันสมัย มีอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการ ตั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติ มีสถานศึกษาขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงมีระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า MRT รองรับ ซึ่งในอนาคตพื้นที่ตรงนี้จะมีการขยายตัวค่อนข้างสูงและกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกจึงเหมาะสมในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ให้ “โรบินสันเมกาบางนา” เปลี่ยนเป็น “เซ็นทรัลเมกาบางนา”

สำหรับลูกค้าโรบินสันในย่านดังกล่าว ยังมีสาขาใกล้เคียงไว้มอบความสะดวกในการจับจ่ายสินค้าและบริการได้อีก 3 สาขา คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ นอกจากนี้ การปรับบิสสิเนสโมเดลใหม่ของโรบินสัน (New Business Model) ยังควบรวมไปถึงการหา New Channel ใหม่ๆ เพื่อรองรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การมอบความสะดวกสบายแก่นักช้อปอย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันโรบินสันได้พัฒนาแพลตฟอร์มการขายทั้ง 4 ช่องทางให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแก่นักช้อปมากที่สุด

1. ROBINSON ONLINE (www.robinson.co.th) 

2. ROBINSON FACEBOOK LIVE ช้อปผ่าน FACEBOOK INBOX ROBINSON DEPARTMENT STORE 

3. ROBINSON CHAT & SHOP ที่ LINE @ROBINSON 

4. ROBINSON CALL & SHOP ช้อปผ่านโทรศัพท์ ที่หมายเลข 02-160-3933 

รวมทั้งบริการรับสินค้าทั้ง บริการส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ และ CLICK & COLLECT รับสินค้าที่จุดบริการลูกค้าสาขาใกล้บ้าน  ช่องทางเหล่านี้จะเข้ามาช่วยเสริมทัพการตลาดของโรบินสันให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถตอบรับ NEW NORMAL LIFE และสถานการณ์ DIGITAL DISRUPTION ได้อย่างเหนือชั้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โรบินสันก้าวสู่การเป็น ‘ออมนิชาแนล ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’ ที่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งเป้าไว้ในอนาคตได้อีกด้วย”

• 'ห้างเซ็นทรัล'แม่เหล็กใหม่เมกาบางนา

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า ห้างเซ็นทรัลจะเป็นผู้เช่ารายใหญ่ที่เป็นแม่เหล็กสำคัญของเมกาบางนาเพื่อร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ ตอกย้ำความเป็น ‘มีทติ้ง เพลส’ (Meeting Place) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งกรุงเทพฯ ตะวันออก ยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครบครัน ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าของเมกาบางนา 

จากข้อมูลในปี 2562 นั้น เมกาบางนามีจำนวนลูกค้าใช้บริการกว่า 50 ล้านคน และเป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อสูง โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ ช่วยต่อยอดเป้าหมายทางธุรกิจให้กับห้างเซ็นทรัลได้อย่างดี รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าของห้างเซ็นทรัล ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งใหม่ๆ บริการที่สะดวกสบาย และปลอดภัย ภายในศูนย์การค้าเมกาบางนาเช่นเดียวกัน

ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา พร้อมแล้วที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งเสมือนบ้านหลังที่ 2  ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.ค. นี้ พบกับสินค้าคอลเลกชั่นใหม่ลดสูงสุด 30%, ลด/รับเพิ่มสูงสุด 30% จากเดอะวัน และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด และบัตรของขวัญเซ็นทรัล จากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน หรือ เครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตกสิกรไทย รวมสูงสุด 12% 

ลูกค้าบัตรมาสเตอร์การ์ด รับบัตรของขวัญเซ็นทรัล มูลค่า 1,000 บาท เมื่อช้อป 2,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป (วันที่ 4-6 ก.ค. จำกัด 200 สิทธิ์/วัน, 1 สิทธิ์/ท่าน ตลอดรายการ) ตั้งแต่วันที่ 2-15 ก.ค. พร้อมกันนี้ ยังได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอด 1 เดือนเต็ม อาทิ ร่วมสนุกที่บูธเกมบริเวณถุงช้อปปิ้งยักษ์ รับคูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 200 บาท (วันที่ 2-6 ก.ค. และทุกเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือน ก.ค. ) แชะแอนด์แชร์ กิจกรรมร่วมสนุกถ่ายรูปที่บูธถ่ายรูปสุดเก๋ ชวนแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กพร้อมใส่แฮชแท็ก #Centralmegabangna รับฟรี! คูปองส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท (วันที่ 2-6 ก.ค.) Performance Show ขบวนแดนซ์สร้างบรรยากาศที่จะยกขบวนไปมอบความสนุกสุดคึกคักในแต่ละชั้น (วันที่ 3-6 ก.ค. เวลา 12.00/14.00/16.00/18.00 น.) มีขบวนทรูปโปรโมชั่นที่จะช่วยสร้างสีสันในการช้อปปิ้งให้ลูกค้า