MTC - ซื้อ

MTC - ซื้อ

ถึงเวลาคืนผลตอบแทนให้กับลูกค้า

Event

ถูกกระทบจากนโยบายใหม่น้อยที่สุด

จากนโยบายใหม่ของ ธปท. กำหนดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ระลอกสองด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อผู้บริโภคทุกประเภทลง (สินเชื่อบัตรเครดิต -2% เป็น 16%, สินเชื่อส่วนบุคคลลดลง 2-3% จากอัตรา 25%, สินเชื่อจำนำทะเบียนลด 4% เป็น 24%) จากการลดดอกเบี้ยดังกล่าว เราคิดว่า MTC จะถูก
กระทบน้อยที่สุดในกลุ่ม เนื่องจาก MTC คิดดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราใหม่ที่ ธปท. แนะนำอยู่แล้ว โดย MTC คิดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ 21.5% และมอเตอร์ไซค์ที่ 20.55% โดยมีเพียงสินเชื่อที่ดิน และอื่นๆ เท่านั้น (ประมาณ 10% ของยอดสินเชื่อคงค้าง) ซึ่งอาจจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ทั้งนี้หากมีการใช้อัตราดอกเบี้ยใหม่ จะทำให้การลดลงของรายได้และกำไรของบริษัทไม่ถึง 2% (ภายใต้สมมติฐานว่าอัตราใหม่มีผลแค่ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2563)

สินเชื่อปีนี้จะโตต่ำกว่าเป้าโดยอยู่ที่ 13-15%

MTC คาดว่าสินเชื่อจะทรงตัว QTD ในช่วงไตรมาส 2/63 เนื่องจากลูกหนี้มีการชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้นภายหลังได้รับเงินชดเชยว่างงาน 15,000 บาท/ราย และรายได้เกษตกร ส่งผลให้สินเชื่อในงวด 1H63 ขยายตัวแค่ประมาณ 4% แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าสินเชื่อจะฟื้นตัวขึ้นใน 3Q63 เนื่องจากโรงเรียนเปิด
เทอม บวกกับเป็นช่วงฤดูเพาะปลูก แม้ว่าคาดว่าสินเชื่อที่ฟื้นตัวขึ้นใน 2H63 อาจจะยังไม่พอที่จะดันให้สินเชื่อปีนี้โตได้ตามเป้าที่ 20-25% โดยเราประเมินว่าสินเชื่อปีนี้น่าจะโตได้แค่ประมาณ 13-15%

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลงกดดัน Margin

เพื่อกระตุ้นอุปสงค์สินเชื่อ MTC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ลงเหลือ 21.25% (จากเดิมที่ 21.55%) และปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ลงเหลือ 19% (จากเดิมที่ 20.55%) ใน 3Q63 เราคิดว่าการลดดอกเบี้ยจะส่งผลทางอ้อมให้ลูกหนี้มีการรีไฟแนนซ์ สัญญาเงินกู้เพื่อจะได้จ่ายดอกเบี้ยถูกลงและจะเป็นการลดความเสี่ยงด้าน NPL และการตั้งสำรองของบริษัทลงด้วย

ซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัว ราคาเป้าหมายที่ 61 บาท (P/E ที่ 24.5x)

ราคาหุ้น MTC outperform หุ้นอื่นในกลุ่มซึ่งเป็นการสะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่ฟื้นตัวได้ดี และการที่บริษัทได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่ของ ธปท. น้อยที่สุดในกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนถึงอัตราการเติบโตที่สะดุดในระยะสั้น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะอยู่ในระดับต่ำนานขึ้น และคุณภาพสินทรัพย์อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ด้วยราคาหุ้นที่ค่อนข้างแพงแล้ว เราจึงแนะนำให้ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

Risks

NPL เกิดใหม่เพิ่มขึ้นมาก สินเชื่อโตลดลง