BPP - ถือ

BPP - ถือ

BPP - ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอที่ หงสา และ โรงไฟฟ้า CHP ที่จีน

จากโรงไฟฟ้าโรงที่ 3 ที่หงสาปิดทำการและเป็นฤดูกาลที่ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า CHP ที่จีนอ่อนแอจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในภาพรวมอ่อนแอใน 2Q โดยเราคาดว่าจะอยู่ทีกำไรราว Bt950m  -3% qoq แต่ลดลงจากกำไรปกติใน 1Q ที่ Bt1.4bn อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มกำไรทีอ่อนแอจะยังคงอยู่จากการปิดโรงไฟฟ้าหงสา 2 โรงใน 3Q และโรง BLCP ใน 4Q เราคงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายด้วยวิธี SoTP ที่ Bt16.6/sh

 

โรงไฟฟ้า 3 โรงที่หงสาปิดทำการและเป็นฤดูกาลที่ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า CHP ที่จีนอ่อนแอคาดว่า BPP จะรายงานผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 2Q ที่กำไร Bt950m -3% qoq แต่ลดลงจากกำไรปกติใน 1Q ที่ Bt1.4bn อย่างมีนียสำคัญจากการที่ BPP ได้บันทึกรายการที่ไม่ใช่เงินสดราว Bt577m จากการปรับโครงสร้างของกลุ่มเพื่อที่จะสร้างบริษัทใหม่ชื่อ ‘Banpu NEXT’ ซึ่ง BPP ได้ถือหุ้น 50% ใน 1Q20 ส่วน BLCP จะสามารถทำค่าความพร้อมจ่าย (EAF) ได้ 100% คงที่ qoq แต่กำไรสุทธิจะอยู่ที่ราว Bt150m พลิกจากขาดทุนราว Bt70m ใน 1Q เนื่องจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (Bt26m) และรายการภาษีรอตัดบัญชี (Bt243m) แต่ค่า EAF ของโรงไฟฟ้าในหงสาจะลดลงสู่ระดับ 78% เนื่องจากการปิดทำการโรงไฟฟ้าโรงที่ 3 นั้นนานกว่าที่วางแผนไว้ 20 วันซึ่งการปิดทำการนั้นเป็นระยะเวลาราว 1 เดือน คาดว่ากำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาจะลดลงสู่ระดับ Bt720m จาก Bt1.1bn ใน 1Q โดยโรงไฟฟ้าหงสา มีทรัพย์สินสุทธิ (net asset) ที่ราว US$600m ซึ่งถูกใช้ในการป้องกันความเสี่ยงกับค่าใช้จ่ายในสกุลเงิน US dollar ในแต่ละไตรมาส ซึ่งไม่ได้ประกันความเสี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นโรงไฟฟ้า หงสา จึงจะมีรายการกำไร/ขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยน และจากการที่ค่าเงินบาท (THB) ได้แข็งค่าเมื่อเทียบกับ US dollars ใน 2Q เราจึงคาดว่า BPP จะบันทึกรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว Bt150m เทียบกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว  Bt151m ใน 1Q

 

ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า CHP ในจีนจะอ่อนแอลง qoq จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลจากฤดูกาล

คาดว่าโรงไฟฟ้าทั้งสามโรง: Zhending (139MW), Luannan (174.5MW), และ Zouping (172.5MW) จะมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลง เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าที่ลดลงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นหลังจากประเทศจีนได้ผ่านฤดูหนาวไปแล้ว โดย 60% ของลูกค้าของโรงไฟฟ้า Zhending และ Luannan อยู่ในภาคอุตสาหกรรมและ 40% นั้นเป็นภาคครัวเรือน ซึ่งทั้งสองโรงไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากการขายไฟฟ้าและไอน้ำที่ลดลง คาดว่าโรงไฟฟ้า Zouping ซึ่งมีลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว (กลุ่มบริษัท Xiwang Group) ก็จะมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอเช่นกัน ซึ่งลูกค้ารายนี้ได้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการด้านทางเดินหายใจจาก Covid-19 ซึ่งอัตราการติดเชื้อที่ลดลงจะนำไปสู่การขายไฟฟ้าและไอน้ำที่ลดลงสำหรับโรงไฟฟ้าโรงนี้ ซึ่งเราคาดว่าโรงไฟฟ้า CHP ทั้งสามโรงในจีนจะสร้างผลกำไรราว Bt220m ลดลงจาก Bt480m ใน 1Q

 

คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายด้วยวิธี SoTP ที่ราคา Bt16.6/sh แนวโน้มกำไรที่อ่อนแอยังคงอยู่จากแผนการปิดโรงไฟฟ้า หงสา โรงที่ 2 ใน 3Q และ BLCP ใน 4Q

แนวโน้มกำไรของ BPP จะยังอ่อนแอใน 2H20 จากการปิดโรงไฟฟ้า หงสา หน่วยที่ 2 ใน 3Q เป็นเวลา 56 วันและการซ่อมบำรุงสำหรับโรง BLCP ใน 4Q ส่วนผลกระทบจะทำให้ Soc Trang Wind (phase1) 30MW ล่าช้าไปสู่ 1Q21 จาก 4Q20 และอีก 50MW (phase 2) ล่าช้าไปสู่ 2022 จาก 2021 โดยราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่ Bt16.6/sh เทียบเท่า 11.5x FY20F PE และ ได้ dividend yield 3.8% โดย BPP ได้วางแผนที่สร้างกำลังการผลิตเพิ่มเติมจนถึง 5.3GWe ภายในปี 2025 ซึ่งค่อนข้างท้าทายหากมองจากกำลังการผลิตในปัจจุบันที่ 2.9GWe และ valuation ที่ถูกของ BPP จะทำให้ downside ต่ำ