“เอพี”เบรกคอนโดมิเนียม ลุยแนวราบกรุงเทพฯ-ภูธร
เอพี เปิดแผนครึ่งปีหลัง เบรกคอนโด เดินหน้าลุยแนวราบ 26 โครงการ 2.6 หมื่นล้านบาท รับกังวลระบาดระลอก 2 เชื่อรัฐรับมือได้ พร้อมเปิดตัวมิกซ์โปรดักส์แนวราบแบรนด์ “อภิทาวน์” ลง 5 จังหวัด
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัทเอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤติการระบาดของโควิด-19 เปรียบเป็นซูเปอร์โนวา (Supernova) ที่สร้างผลกระทบวงกว้างและรุนแรงกว่าวิกฤติในอดีต แต่เชื่อว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ว่าจากภาครัฐ และภาคเอกชนจะทำให้ฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้
“ยอมรับว่า บริษัทกังวลกับการระบาดระลอก 2 เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ กำลังซื้อหากล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง ซึ่งหวังว่าการระบาดจะไม่เกิดขึ้น แต่ในกรณีที่เกิดขึ้นเชื่อว่าทุกคนรวมทั้งเอพีนำประสบการณ์ที่ผ่านมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีขึ้น”
นายวิทการ กล่าวว่า จากความเชื่อมั่นดังกล่าวทำให้ในครึ่งปีหลัง บริษัทยังจะยังคงดำเนินงานตามโรดแมพ MASTERPLAN FOR TOMORROW ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ด้วยการเดินหน้าขยายโครงการให้ครอบคลุมความต้องการในกรุงเทพฯ จำนวน 21 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 7,970 ล้านบาท ทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่า 13,330 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น จะเปิดตัวโครงการแนวราบ 5 จังหวัด ภายใต้แบรนด์ อภิทาวน์ มูลค่ารวม 4,700 ล้านบาท ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ระยอง อยุธยา ขอนแก่น และเชียงราย ในรูปแบบโครงการแบบมิกซ์ โปรดักท์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งในแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 1.5 - 9 ล้านบาท รวมครึ่งปีหลังเปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาทโดยชะลอโครงการแนวสูงออกไปก่อนจนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น
“อภิทาวน์ จะเป็นชื่อแบรนด์สินค้าในกลุ่มต่างจังหวัดที่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตเอพี เป็นการทดลองมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ชูจุดขายมาตรฐานเอพี ในราคาใกล้เคียงแต่ต้องยอมรับว่าต้นทุนค่าที่แพงกว่าผู้ประกอบการในพื้นที่”
สำหรับในครึ่งปีแรก มียอดขาย 15,085 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 12,800ล้านบาท คอนโด 2,200ล้านบาทสะท้อนให้เห็นว่าบรรยากาศการซื้อขายดีขึ้น ซึ่งความต้องการคอนโดยังคงมีต่อเนื่องเพียงแต่ปีนี้บริษัทไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ยอดขายจึงไม่มากทั้งนี้ในครึ่งปีหลังบริษัทมีคอนโดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน โครงการ ได้แก่ LIFE อโศก-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 9,800 ล้านบาท พร้อมโอนเดือนส.ค.นี้ และ ASPIRE อโศก-รัชดา มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท พร้อมส่งมอบเดือนส.ค.นี้ ปัจจุบันบริษัทมีมีคอนโดที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 21,000 ล้านบาท
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้จะส่งผลให้ผู้ซื้อคอนโดเพื่อลงทุนระยะสั้นชะลอการตัดสินใจลงทุน แต่ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวก็ยังคงเห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น"
โดยบริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายในปี 2563 ไว้ที่ 33,500 ล้านบาท รายได้ 40,550 ล้านบาทซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายแล้วที่ 15,085 ล้านบาท คิดเป็น 45% ของเป้าหมายรวม มาจากการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ จำนวน 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 15,500 ล้านบาท และจากโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 100 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าสินค้าคงเหลือขายรวม 70,000 ล้านบาท