‘บัตเตอร์ฟลาย’น้ำหอมไทย กลิ่นโคลนสาบควายรัญจวนโลก

ตลาดน้ำหอม ปรุงกลิ่นสร้างความสดชื่นให้ผู้ใช้ ไม่ว่าจะแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็ก แท้จริงมีต้นทุนไม่สูงนัก แต่ที่ตั้งราคาสูงปรี๊ดล้วนเกิดจากมูลค่าแบรนด์ เพราะความพึงพอใจในการรับกลิ่นไม่อาจประเมินค่าได้ เช่นเดียวกับ กรรมวิธีการปรุง “น้ำอบไทย” เคล็ดลับภูมิปัญญาไทย

สุชิน แก้วอุดร -ชิน เจ้าของแบรนด์น้ำหอมไทย บัตเตอร์ฟลาย ไทย เพอร์ฟูม (Butterfly Thai Perfume) ดีไซเนอร์ นักออกแบบเสื้อผ้า เปิดแผงค้าอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร กลับมาพลิกชีวิต เล่น แร่ แปร ธาตุ พืชพรรณพืช สมุนไพรไทย มาปรุงตามแบบต้นตำรับไทยเล่นๆ และทำขายเล่นๆ วางขายแบกะดินให้คนเดินในจตุจักร กลับขายดีจนต้องเบนเข็มหันไปปรุงนำหอมเป็นอาชีพหลัก

วิถีชนบท ความทรงจำวัยเด็ก ที่เขาเติบโตมากับกับท้องทุ่ง จ.ชัยภูมิ เคยมีหน้าที่เลี้ยงวัว ทำให้สุชิน ได้ซึมซับไอดิน กลิ่นหญ้าจากธรรมชาติ กลายเป็นพรสวรรค์ ให้อดีตเด็กชนบทมีฝีมือในการแยกแยะกลิ่น ฝึกปรือผสมฝีมือ ลงเรียนตามคอร์สทำน้ำหอมต่างๆ จนสร้างน้ำหอมแบรนด์ไทย "Butterfly Thai Perfume" อย่างจริงจัง เพื่อย้อนศร นำคุณค่าพรรณพืช ภูมิปัญญาการปรุงน้ำหอมวิถีไทย กลับไปตีตลาดสร้างแบรนด์น้ำหอมก้องโลก

เขาตั้งชื่อน้ำหอมที่ครีเอทการปรุงกับมือว่า “Butterfly” ตั้งใจสื่อให้เห็นความรัญจวนของน้ำหอมนั้นดึงดูด"ผีเสื้อ" มาดอมดม และพร้อม"โบยบิน" สร้างแบรนด์ไปทั่วโลกให้คนรู้จักน้ำหอมของไทย

“แรงบันดาลใจในการทำน้ำหอมเกิดจากเพื่อนเล่าว่า น้ำหอมเมืองนอกที่ราคาสูง แต่ต้นทุนไม่แพงเลย เมืองไทย มี อะไรดีๆ มาก มีน้ำอบน้ำปรุงสมัยคุณย่าที่เทียบเท่าหรือดีกว่า ซึ่งตอนนั้น 8 ปีที่แล้ว เป็นยุคที่คนไม่เชื่อว่าคนไทยทำน้ำหอมได้ คนก็ซื้อแต่น้ำหอมเมืองนอกไม่เคยซื้อน้ำหอมไทย เราเป็นเจ้าแรกทลายกำแพง ทำให้ให้คนเห็นน้ำหอมไทย ”

น้ำหอมกลิ่นแปลกใหม่ กลิ่นจากธรรมชาติ สมุนไพรไทย เป็นอัตลักษณ์มีเสน่ห์ จึงมีลูกค้าประจำมาซื้อทั้งไทยและต่างชาติ ปากต่อปาก(Word of Mouth) สร้างการรับรู้แจ้งเกิดแบรนด์น้ำหอมไทย “Butterfly” ที่ตลาดนัดจตุจักร โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว

น้ำหอมที่เขาปรุงกลิ่นด้วยการพัฒนาเองมีทั้งหมด 26 กลิ่น แต่กลิ่นหอมฉบับไทย มีทั้งเรื่องราว และที่มาที่ไปอันมีเสน่ห์น่าหลงใหล พร้อมกับรสสัมผัสที่หอมรัญจวนใจชาวต่างชาติ และถูกใจจมูกขายดีทั้งคนไทยและต่างชาติ มี 5 กลิ่น ที่ขายดี คือ ข้าวเหนียวมะม่วง, กลิ่นโคลนสาปควาย, พลับพลึงแพร, ว่านสาวหลง, และกฤษณา 

โดยทั้งหมดเป็นน้ำหอม Unisex เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะความตั้งใจของเขาต้องการให้เป็น mass ตั้งราคาขายถูกกว่าแบรนด์เนม2-3 เท่าตัว แต่กลิ่นติดทนนานกว่าและดีกว่า เพราะไม่จ่ายต้นทุนการซื้อสื่อโฆษณา

“จุดขายเรามีความแปลก ขายความแปลก ที่ชื่อ ความคิดสร้างสรรค์ กล้าฉีกกรอบความคิดเดิม เช่น กลิ่นโคลนสาปควาย ไม่มีใครคิดจะนำชื่อที่คนมีทัศนคติลบมาทำเป็นน้ำหอม ที่คนถวิลหาได้ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้เติบโตมากับวิถีชนบท จึงคิดไม่ออกว่าความหอมของกลิ่นโคลนสาปควายเป็นอย่างไร แต่เราทำให้คิดถึงเศษหญ้าอ่อน ที่ควายเล็ม เศษโคลนที่ติดอยู่บนตัวควาย และกลิ่นน้ำคลอง กลายเป็นกลิ่นที่หอม เนียน แบบธรรมชาติ ที่คนติดใจ”

เป็นการผสมผสานระหว่างความโบราณ ตำนานน้ำหอมไทย เรื่องราวความเป็นไทย เชื่อมโยงกับพืชพรรณสมุนไพร ที่ให้เกษตรกรได้ปลูก และช่วยสกัด บวกกับความทันสมัย ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอจึงทำให้คนชอบ และแบรนด์มีชื่อเสียง ที่เราตั้งเป้าหมายอันสูงสุดทำให้ประชากรทุกคนบนโลกรู้จักButterfly

“เราต้องการเป็นผีเสื้อที่โบยบินนำของดีของไทยมีตำนาน เรื่องเล่า ภูมิปัญญา น้ำปรุงของคนไทยไปสู่สายตาคนทั่วโลก ที่ทำให้ช่วยเหลือสังคมเกษตรกรไทยแล้วยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ”

ในช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมาห้างสรรพสินค้า ไอคอนสยาม จึงชวนมาปักธงหน้าร้านอีกแห่ง จนทำให้เพิ่มลูกค้าตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซื้อหิ้วกลับไปขาย จึงคิดจะเข้าไปบุกตลาดจีน ประชากรมหาศาลอย่างจริงจัง พบว่า แบรนด์ น้ำหอม Butterfly มีคนขึ้นทะเบียนแบรนด์แล้ว 4,800 ราย ปิดทางในการทำตลาดน้ำหอมแบรนด์นี้ในจีน นอกจากส่งออกผ่านพ่อค้าหัวใสจีนที่ไปชิงจดชื่อแบรนด์ก่อน

“ยอมรับว่ามีพ่อค้าหัวใส ชิงนำชื่อแบรนด์เราไปจดชื่อแบรนด์ ข้อดีคือแบรนด์เราดังจึงมีคนนำชื่อที่กำลังมีอนาคตเราไปจดในประเทศจีนไว้ก่อน ทำให้เราไปทำตลาดเองไม่ได้ ก็ต้องยอมขายผ่านตัวแทนที่มีไลเซนส์แบรนด์ในจีน ซึ่งวางแผนพัฒนาแบรนด์น้ำหอมขึ้นมาใหม่ เข้าไปชิงส่วนแบ่งน้ำหอมในจีน” เขามองแง่ดี และวิธีแก้เกมพ่อค้าจีนหัวใส

การวางขายในห้างสรรพสินค้า ที่ขณะนี้มีทั้งในเซ็นทรัล เดอะมอลล์ และจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต กระบี่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทยต่างหิ้วน้ำหอมกลับไปขาย เป็นจุดเริ่มต้นของการมีดีลเลอร์น้ำหอมแบรนด์ Butterfly ปักธงใน ต่างประเทศ โดยที่เขาไม่ต้องเข้าไปทำการตลาด ประกอบด้วย ไต้หวัน เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม ลาว และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แม้น้ำหอมจะถูกจัดอยู่ในเกรดสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แม้ต้องปิดห้างสรรพสินค้ากลับมียอดขายออนไลน์มาชดเชย เพราะน้ำหอมแบรนด์ Butterfly มีกลุ่มคนเฉพาะที่มีกำลังซื้อ และมองว่าเป็นสิ่งจำเป็น แม้ยอดขายในปี 2563 ที่ตั้งไว้จะเติบโต 80% จากปี 2562 แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ยอดขายอาจจะลดลงเล็กน้อยไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่หากเทียบกับปีก่อนยังถือว่าเติบโตท่ามกลางภาวะวิกฤติ

ในปี 2564 หลังจากวิกฤติโควิดเริ่มสงบ เขาวางแผนที่จะรีแบรนด์ ปรับภาพลักษณ์และแพคเกจน้ำหอมใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาในปีหน้า

ในอนาคต จะพัฒนาแบรนด์ที่ไม่ใช่แค่แบรนด์น้ำหอม แต่คือ Lifestyle การใช้ชีวิต ที่พัฒนาสินค้าต่างๆ ควบคู่กัน โดยเน้นนวัตกรรม เช่น ชุดชั้นใน ดับกลิ่น มีความหอม และถุงเท้า กระเป๋ากลิ่นหอม

ผลของความสำเร็จของธุรกิจButterfly เกิดจากหลอมรวมสมองสองซีก คิดเชื่อมโยง เริ่มต้นจากจินตนาการฉีกกรอบเดิมๆ นำคุณค่าความเป็นไทย ต่อยอดจากภูมิปัญญาไทย ทำให้ความเป็นไทยไม่เชย มีความร่วมสมัย

“การไม่หยุดคิด ฝึกสมองเล่นๆ ไปทุกวัน และเรียนรู้จะทำให้เราเชื่อมโยงสิ่งที่เราทำธุรกิจเกิดประโยชน์กับตัวเรา สังคม และประเทศของเรา” เขาให้มุมมอง

สูตรปรุงน้ำอบไทยก้องโลก

-ตำรับของดีโบราณผสานความทันสมัย

-ทำของแพงขายถูก”

-ตัดรายจายด้านการตลาด

-ไม่หยุดคิด ครบลูป เชื่อมสมองสองซีก