ค้าปลีกฝ่าคลื่นแข่งเดือด โหมลงทุนดิจิทัลแพลตฟอร์ม'ลอยัลตี้โปรแกรม'
ค้าปลีก เปิดศึกดิจิทัลไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม “ลอยัลตี้โปรแกรม” งัด “มูลค่าเพิ่ม” กระตุ้นใช้จ่ายสู้เศรษฐกิจซบ กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่ม “พันล้าน” พลิกโฉม “เดอะวัน” ผนึกเทคพาร์ทเนอร์ระดับโลกต่อจิ๊กซอว์ฐานสมาชิก 17 ล้านราย สร้าง “เอ็กซ์พีเรียนซ์ อีโคโนมี”
สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกเผชิญปัจจัยลบรอบด้านจากวิกฤติโควิด ส่งผลภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การแข่งขันทวีความรุนแรงจากการช่วงชิงลูกค้าเพื่อสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด นอกจาก “ลดแลกแจกแถม” เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้จ่ายแล้ว เครื่องมือทางการตลาดอย่าง “ลอยัลตี้โปรแกรม” กำลังถูกยกระดับให้เป็นมากกว่าการสะสมแต้มแลกสินค้าพรีเมียม หรือส่วนลด แต่จะถูกต่อจิ๊กซอร์ ใช้ “ดิจิทัล เทคโนโลยี” สร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ให้ได้มากที่สุด
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลจัดสรรงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาทในการพัฒนา เดอะวัน (The1) ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ แอนด์ ลอยัลตี้ แพลตฟอร์ม (Digital Lifestyle & Loyalty Platform) ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าแบบไร้รอยต่อ
ล่าสุดได้ร่วมกับพันธมิตร “เทคคอมปะนี” ระดับโลกในการพัฒนาต่อยอด เดอะวัน ก้าวสู่ ยูนีคแพลตฟอร์ม กล่าวได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มระดับภูมิภาคและหนึ่งเดียวในโลกที่ครอบคลุมทุกสินค้าและบริการ ประสบการณ์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันเหนือคู่แข่ง
นายธรรม์ จิราธิวัฒน์ President-The1 กล่าวว่า เดอะวัน ร่วมกับเทคพาร์ทเนอร์พัฒนาและต่อยอดแพลตฟอร์มเดอะวันให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีและตรงใจที่สุดให้สมาชิก ประกอบด้วย
Accenture Interactive ผู้ให้บริการด้านกลยุทธ์และที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีอินเตอร์แรคทีฟและการปฏิบัติการ
Adobe ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งและดิจิทัลมีเดีย นำเสนอโซลูชั่นที่หลากหลายเสริมศักยภาพของเดอะวันในการสร้าง Customer Engagement แบบเรียลไทม์
SessionM ภายใต้ยักษ์ใหญ่ Mastercard นำเสนอเทคโนโลยีการมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนมือถือแบบเรียลไทม์ ทำให้เดอะวัน ส่งมอบประสบการณ์ที่ตรงใจ
Nimble ที่ปรึกษาด้านระบบซอฟท์แวร์เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ การวางโครงสร้างของระบบการจัดการแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เหมาะกับการใช้งานของสมาชิก
PRIMO สตาร์ทอัพไทยนำเสนอเทคโนโลยีการตลาดแบบ Omnichannel ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ เดอะวัน ผ่านเครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และ Engagement ให้สมาชิกและพันธมิตรทางธุรกิจ และช่วยขยาย เดอะวัน อีโคซิสเต็ม (The 1 Ecosystem)
RIS บริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีและธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล มีบทบาทในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาธุรกิจและบริการ พร้อมบริการแอพพลิเคชั่น โครงสร้างพื้นฐานไอที ครอบคลุมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย RIS ร่วมมือกับ เดอะวัน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานลอยัลตี้แพลตฟอร์ม และเชื่อมต่อเครื่องมือ MarTech และ Offline Touchpoint ให้เข้ากับแพลตฟอร์มได้อย่างไร้รอยต่อ
Central Tech บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล ให้บริการโซลูชั่นต่างๆ ด้านออมนิแชนแนล อีคอมเมิร์ซ และ Customer Relationship ให้กับเซ็นทรัลรีเทล โดยนำความเชี่ยวชาญมาช่วยเพิ่มประสบการณ์ของสมาชิกทุกคนในแบบรอบด้าน (Holistic Customer Experience)
ต่อยอดสมาชิก17ล้านคน
ปัจจุบัน เดอะวัน มีสมาชิกกว่า 17 ล้านคน นับเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ภายใต้การพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของ เอ็กซ์พีเรียนซ์ อีโคโนมี (Experience Economy) ให้กับ ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างแต้มต่อทางการแข่งขันให้กับกลุ่มเซ็นทรัลด้วย "Data&Analytics" จากข้อมูลสมาชิก 17 ล้านคน ในการวิเคราะห์เชิงลึกแบบรอบด้าน 360 องศา ทำให้เดอะวันส่งมอบสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ
ทั้งนี้ เดอะวัน อีโคซิสเต็ม ที่เชื่อมโยงเดอะวัน และทุกหน่วยธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจนอกกลุ่ม จาก 8 ประเภทธุรกิจ รวมกว่า 2,000 แบรนด์ สร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของสมาชิกได้เหนือคู่แข่งสร้าง "Synergized Collaboration" หรือการร่วมมือระหว่างเดอะวัน และพันธมิตรแบบ Cross-functional ทำให้เกิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
ประสบการณ์ คือหัวใจหลัก
การสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาเดอะวันแพลตฟอร์มมุ่งเน้นความหลากหลายและตรงใจกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ แบบเฉพาะบุคคล (Personalization) สนุกและคุ้มค่า ไม่เพียงแค่แลก สะสม โอนคะแนน แต่ยังได้สนุกกับรางวัล ผ่าน Mission ที่ผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และ สะดวกแบบไร้รอยต่อ สมาชิกจัดการทุกอย่างได้เองภายในแอพพลิเคชั่นเดอะวัน
สำหรับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Flash Deal ดีลพิเศษที่ใช้คะแนนน้อยแต่ได้รับสิทธิพิเศษคุ้มค่า My Rewards ฟีเจอร์จัดเก็บสิทธิพิเศษและคูปองเป็นเสมือนกระเป๋าสตางค์เก็บสิทธิพิเศษส่วนตัว The 1 Mission ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยสร้าง New way of Engagement กับลูกค้าให้ได้สนุกกับการชอปปิงอย่างมีเป้าหมาย เมื่อสมาชิกพิชิตมิชชั่นสำเร็จจะได้รับรางวัลมากมาย ทั้งคะแนน ส่วนลด และของรางวัล โดยลูกค้าสามารถทำภารกิจได้แบบไม่ต้องจำกัดแค่ร้านใดหรือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ในอนาคตจะสามารถใช้จ่ายแบบไร้เงินสดได้สะดวกจบได้ที่ภายในแพลตฟอร์มของเดอะวัน
เดอะมอลล์เสริมแกร่ง‘เอ็มการ์ด’
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ กล่าวว่า การพัฒนาลอยัลตี้โปรแกรม เอ็มการ์ด 11ปี ที่ผ่านมา มีสมาชิก 4.2 ล้านคน ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และมีกำลังซื้อสูง พร้อมกันนี้ได้ขยายฐานสมาชิกไปยังชาวต่างชาติพำนักในไทยราว 2 แสนคน
การพัฒนาของ เอ็มการ์ด อยู่ภายใต้กลยุทธ์ “5M” ประกอบด้วย M Card มุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง, Me การทำการตลาดแบบ Personalization, Mobile ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในยุค5G เพื่อสร้างประสบการณ์การชอปปิงรูปแบบใหม่, Moment มุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาด และ eMperience การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา รวมถึงสร้างบริการในรูปแบบใหม่นอกเหนือจากการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว
“ในยุคนิวนอร์มอล เอ็มการ์ด ยังต้อปรับตัวตลอดเวลาเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบออนไลน์ชอปปิงบนแพลตฟอร์มเว็บไซต์ สร้างการเข้าถึงหลากหลายแบบไร้รอยต่อ (Omni Channel) ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์”
เอ็มการ์ด ไม่ได้เป็นเพียง “ลอยัลตี้การ์ด” แต่เป็นเครื่องมือสร้างประสบการณ์การชอปปิงยุค 5G โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดตัวภายในเดือน พ.ย.นี้