STEC - ซื้อ
เร่งหางานใหม่
กลับมา coverage STEC พร้อมคำแนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมาย Bt17.00/sh โดยมีปัจจัยหนุนดังนี้: (1) ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการร่วมดำเนินงานที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรอย่าง BTS, GULF ใน JV ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานโครงการใหม่, และ (2) รายได้เงินปันผลที่สูงขึ้นจาก GULF เราคาดว่ากำไร FY20F จะอยู่ที่ Bt929m และกำไรในปี FY21F จะเติบโตขึ้น 40% สู่ Bt1,302m
การใช้จ่ายงบก่อสร้างจะฟื้นตัวใน 2021
เราคาดว่าการใช้จ่ายงบประมาณก่อสร้างของภาครัฐบาลจะเติบโต 1-2%yoy ในปี 2020, 2-3% ในปี 2021, และ 3-4% ในปี 2022 ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการ การใช้จ่ายงบประมาณในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล ได้แก่: (1) รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก, (2) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้, และ (3) รถไฟรางคู่ 2 โครงการของการรถไฟไทย อย่างไรก็ตามประเด็นการเมืองในประเทศอาจทำให้โครงการรัฐบาลโครงการอื่นล่าช้าออกไป
จุดแข็งของ STEC คือฐานะการเงินแข็งแกร่ง
ณ มิถุนายน 2020 สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ในระดับต่ำที่ 0.09x นอกจากนี้บริษัทมีสภาพคล่องในระดับที่เป็น เงินสดสุทธิ (net-cash position) และมีเงินสดในมือที่ Bt4.1b ดังนั้นจุดแข็งหนึ่งของ STEC คือฐานะการเงินที่แข็งแกร่งทั้งนี้ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำจะช่วยหนุนบริษัทในการประมูลโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดประมูลในช่วงนี้
คาดว่ากำไรปี FY21F จะเติบโตราว 40% โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรที่สูงขึ้น
เราคาดว่ากำไร FY20F จะอยู่ที่ราว Bt929m และกำไร FY21F จะเติบโตขึ้น 40% สู่ระดับ Bt1,302m การเติบโตของกำไรใน FY21F จะมีปัจจัยหนุนจาก (1) อัตรากำไรที่สูงขึ้นสู่ระดับ 5% จาก 4% ใน 2019 หลังจากส่งมอบโครงการรัฐสภาในปีนี้และ (2) รายได้เงินปันผลจาก GULF ที่สูงขึ้น (STEC ถือหุ้น GULF 1.88%)
กลับมา coverage อีกครั้ง แนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมาย Bt17.00/sh
คำแนะนำซื้อของเรามีปัจจัยหนุน ดังนี้: (1) ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งซึ่งรวมถึงการร่วมดำเนินงานที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรอย่าง BTS, GULF ใน JV ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานโครงการใหม่ และ (2) รายได้เงินปันผลจาก GULF ที่สูงขึ้น ราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า 20x FY21F PE หรือ -1.0SD ของค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปี