‘เคอรี่’ จ่อไอพีโอ 300 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายเครือข่ายส่งสินค้าต่อยอดกิจการ
“เคอรี่ เอ็กซ์เพลส” ยื่นไฟลิ่งเตรียมขายไอพีโอ 300 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายเครือข่ายจัดส่งสินค้าเพิ่ม หนุนหุ้น “วีจีไอ” ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง พุ่งชนซิลลิ่ง นักวิเคราะห์ คาดเริ่มเข้าเทรดต้นปีหน้า พร้อมฟันธง หุ้นวีจีไอ ยังวิ่งได้ต่อจาก 2 ปัจจัยหนุน
บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้น(ไฟลิ่ง) เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(ไอพีโอ) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เบื้องต้นจะขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 300 ล้านหุ้น โดยขายให้ทั้งผู้ลงทุนในและต่างประเทศ
สำหรับเงินทุนที่ได้จะนำไปขยายเครือข่ายจัดส่งพัสดุด่วน ซึ่งบริษัทคาดการณ์ว่าจะมีรายจ่ายฝ่ายทุนสำหรับปี 2563 ราว 450 ล้านบาท และปี 2564 อีกราว 1,500 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งใจจะนำเงินสด เงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอ และเงินจากการกู้ยืมมาใช้เพื่อเป็นรายจ่ายฝ่ายทุนในอนาคต
ปัจจุบันรายได้หลักของ KEX มาจาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การจัดส่งพัสดุแบบบุคคลถึงบุคคล คิดเป็นสัดส่วน 54.4% การจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจถึงบุคคล สัดส่วน 43.8% และการจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจถึงธุรกิจ สัดส่วน 1.7% และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการโฆษณา โดย ณ สิ้นปี 2562 รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 1.97 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปี 2561 ที่ทำได้ 1.35 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้ ทำได้ 1.02 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิของ KEX เพิ่มขึ้นจาก 1.18 พันล้านบาท ในปี 2561 เป็น 1.32 พันล้านบาท ในปี 2562 และ 6 เดือนแรกปีนี้ ทำได้ 737 ล้านบาท
ภายหลังการยื่นไฟลิ่งของ KEX ราคาหุ้น บมจ.วีจีไอ (VGI) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ของ KEX ปรับขึ้นร้อนแรง ชนเพดานการซื้อขายสูงสุด(ซิลลิ่ง) และมาปิดตลาดที่ระดับ 6.80 บาท เพิ่มขึ้น 14.29% ซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
นายนภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์( บล.)บัวหลวง เปิดเผยว่า หลังจากนี้มองว่าจะเห็นการทำงานร่วมกันระหว่างธุรกิจของ VGI และ KEX มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ VGI มีธุรกิจสื่อและระบบชำระเงินออนไลน์ ส่วน KEX เข้ามาช่วยเสริมด้านโลจิสติกส์ และที่ผ่านมาก็มีการส่งผ่านสินค้าใหม่ๆ ของ VGI ให้กับลูกค้าของเคอรี่ได้รู้จักมากขึ้น รวมถึงการทำระบบสมาชิกร่วมกัน ทำให้เริ่มมีการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าระหว่างกันมากขึ้น
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า การยื่นไฟลิ่งของ KEX เป็นสิ่งที่ตลาดรอคอยมากว่า 12 เดือน หลังจากได้เงินทุนมาขยายกิจการ คาดว่าจะทำให้แผนธุรกิจออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) เดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่งในอนาค
โดยธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงโฆษณาที่ผสมผสานทั้งสื่อนอกบ้านและสื่อออนไลน์ ให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งรู้ได้จากการนำข้อมูลผู้บริโภคมาวิเคราะห์
นายปฏิภาค นวาวัตน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า ราคาหุ้น VGI ในช่วงก่อนหน้านี้ถูกกดดันจากผลประกอบการของบริษัท ช่วงไตรมาส 1 ปี 2563/2564 (เม.ย. - มิ.ย. 2563) ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 103.95 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้น VGI ก่อนที่จะพุ่งขึ้นมาชนเพดานในวันนี้ ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงพอสมควร โดยเราได้ประเมินราคาเหมาะสมของ VGI ไว้ที่ 8.60 บาท
“ราคาหุ้นของ VGI ก่อนหน้านี้ ถือว่ารับข่าวร้ายไปมากพอสมควร เมื่อมีประเด็นบวกเข้ามา ราคาหุ้นก็พร้อมจะปรับตัวขึ้นโดยทันที ถึงแม้ว่าประเด็นการนำเคอรี่เข้าจดทะเบียนจะไม่ใช่ประเด็นใหม่ ซึ่งเป็นลักษณะของหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมากๆ”
ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้น VGI หลังจากที่พุ่งขึ้นมาชนเพดานล่าสุดนี้ ยังมีช่องว่างให้ราคาปรับขึ้นได้อีก โดยได้แรงหนุนจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ผลการดำเนินงานที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสล่าสุด สำหรับไตรมาสนี้ (ก.ค. - ต.ค. 2563) คาดว่าจะไม่เห็นผลขาดทุนแล้ว และจะค่อยๆ ดีขึ้นต่อเนื่อง และอีกปัจจัยคือการเข้าจดทะเบียนของเคอรี่จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้น VGI เข้าใกล้ราคาเหมาะสมมากขึ้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากความเห็นของนักวิเคราะห์ 13 ราย ซึ่งสรุปไว้ใน IAA Consensus ผ่านเว็บไซต์ Settrade.com พบว่า ราคาปัจจุบันยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 7.79 บาท อีกราว 15% โดยราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้คือ 8.7 บาท ขณะที่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 6.25 บาท