“พสุ ลิปตพัลลภ”วางหัวใจนิ่ง นำทัพพราวกรุ๊ปฝ่าวิกฤติ

โดยโมเดลความสำเร็จดังกล่าว ถูกยกมาปักธงที่ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมของประเทศ โดยได้เปิดให้บริการ "โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท" เมื่อเดือนม.ค.2563 ด้วยงบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ทว่าโครงการดังกล่าวได้รับผลกระทบจากโควิด จากที่เคยมียอดจองเข้าพัก (Occupancy Rate) ถึง 90% การปิดน่านฟ้าและปิดกั้นการเดินทางเข้าประเทศ (ล็อกดาวน์) เกือบ 4 เดือน ทำให้โรงแรมที่เพิ่งเปิดบริการต้องทิ้งเงินหลักร้อยล้านบาท จากยอดจองเข้าพักที่ลดลงอย่างมาก  

ในช่วงที่การระบาดโควิดทั่วโลกยังไม่คลี่คลาย รัฐยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ  “พราวกรุ๊ป” จึงต้อง “เร่งปรับโครงสร้างธุรกิจ” พร้อมไปกับการคุมต้นทุน เพื่่อให้ธุรกิจลอยคอพ้นน้ำ

 

“พสุ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร พราว กรุ๊ป บอกว่า เดิมธุรกิจตั้งเป้ากลุ่มเป้าหมายต่างชาติกว่า 90% ที่จองห้องพักเกือบเต็มตั้งแต่เปิดบริการ ทว่าการปิดน่านฟ้า ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ทั้งหมด

“ที่ไหนมีปัญหาก็ส่งผมมา (หัวเราะ) เดิมถูกมอบหมายให้ดูแลงานด้านโอเปอเรชั่นและคน เพราะเคยทำงานด้านไฟแนนซ์มาช่วยบริการจัดการต้นทุนได้ แต่ในภูเก็ต ถูกมอบหมายให้มาดูแลตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง” มือบริหารรุ่นใหม่เปิดใจเล่าถึงวิกฤติด้วยท่าทีไม่ตระหนก

 โดยเจ้าตัว มองว่า โควิดคือความท้าทายที่ภาคธุรกิจต้องรับมือในวันที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือศูนย์ จะว่าไปแล้วถือเป็นวัฎจักรปกติ ที่ในแต่ละวันมีทั้งช่วงมืดและสว่าง จึงต้องประคับประคองตัวให้อยู่กับความมืดก่อนแสงสว่างจะมาถึง 

“ก่อนสว่างต้องมีมืด มองมุมบวก พร้อมสู้ ต้องพาธุรกิจลอยคออยู่เหนือน้ำ ประเมินสถานการณ์เป็นรายเดือน สุดท้ายอย่าไปเครียดกับมัน ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ผมมีหน้าที่ดูแลทีมงาน คนทำงานให้มีกำลังใจเดินหน้า ส่วนปัญหาอื่นๆ นอกเหนืออำนาจ พยายามบริหารตัวเองให้นิ่ง พร้อมยืดหยุ่นปรับตัวตลอดเวลา” 

เขายังเห็นว่า ตอนนี้เป็นจังหวะของการบริหารงานตามสภาวะความปกติใหม่ หรือ Now Normal ในเมื่อรายได้ไม่เข้า ก็ต้องคุมค่าใช้จ่ายให้สิ้นเปลืองน้อยที่สุด ใช้กำลังพนักงานที่มีกว่า200คน ด้วยการรีดประสิทธิภาพให้คุ้มค่าที่สุด ห้องพักมี223ห้อง เปิดบริการเพียง50% และนำร้านอาหารไทยหน้าชายหาด และบาร์ รวมถึงเตียงหน้าหาด มาเปิดบริการเช่าให้ต่างชาติ และผู้ที่มาเล่นน้ำทะเล ตลอดวัน บริหารอาหารไทย รวมถึงจัดโปรโมชั่นจ่ายครบ 9,000 บาทแถมห้องพักฟรี เป็นการบริหารจัดการสิ่งที่มีในมือมาเพิ่มกระแสเงินสด (Cash Flow) 

“สิ่งที่เหนืออำนาจควบคุม เผชิญหน้าอย่างใจนิ่ง และยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ รีดประสิทธิภาพขององค์กรออกมาให้มากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่พยายามเอาตัวรอด (Survival mode) เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง และบริหารให้ทีมงานทำงานได้หลากหลาย”

ส่วนการลงทุนในโครงการ "อันดา มันดา ภูเก็ต” เป็นโรงแรมและสวนน้ำ มูลค่าลงทุนราว 7,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างมีแผนจะเปิดตัวปลายปี 2563 ต้องเลื่อนออกไปเป็นกลางปี2564 

 เขาเล่าต่อว่า ท่ามกลางความกังวลโควิดระลอกสอง แต่ธุรกิจยังต้องเดินหน้า โดยเขาประเมินว่าภูเก็ตจะเริ่มกลับมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวจริงในช่วงตรุษจีน ปีหน้า ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ

ทว่า ก่อนจะไปถึงจุดที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ต้องแก้โจทย์ด้วยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ รับมือผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปเป้าหมายกระตุ้นสัดส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดิมมีสัดส่วน 10% เพิ่มเป็น 20% เพื่อให้พอรันธุรกิจผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากไปต่อได้โดยไม่มีการเลิกจ้าง 

พสุ จึงรวมตัวกับภาคธุรกิจคนรุ่นใหม่ จัดกิจกรรมกระตุ้นให้คนไทยหันมาเที่ยวไทย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการผลิตคอนเทนท์ผ่านโซเชียลมิเดีย เชิญผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด (Influencer) มาถ่ายรูปชวนนักธุรกิจรุ่นใหม่ ประกอบด้วย ดิษยา วาเคชันนิสต์,ไลก้า, บริษัท สิงห์ คอปเปอร์เรชั่น จำกัด และCoca Colaหาดทิพย์ ผ่านแคมเปญ “Unseen Kamala presents Disaya Vacationist” มีการจัดปาร์ตี้, จัดงานวาดภาพศิลปะ, ท่องเที่ยวถ่ายรูป และ เดินแฟชั่น เพื่อทำให้ภูเก็ตกลับมาคึกคัก 

เขามองว่า แม้นักท่องเที่ยวคนไทยจะมีสัดส่วนเพียง10-20%ของภูเก็ต แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการปรับโครงสร้างดึงคนไทยให้เข้ามาแทนการทิ้งห้องเปล่า จึงต้องพัฒนาคอนเทนท์กระตุ้นคนไทยให้เปิดมุมมองใหม่ในเมืองภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวระดับเวิร์ดคลาส เป็นแดนสวรรค์ที่ไม่ได้มีเพียงต่างชาติ แต่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวไทย