ลงทุน 'กระเป๋าแบรนด์เนม' ยังไงให้ปัง!

"กระเป๋าแบรนด์เนม" รุ่นฮิต เป็นอีกหนึ่งความฝันของสายกระเป๋าที่อยากมีไว้ในครอบครอง หลายคนอาจสงสัยว่าทำคนกลุ่มนี้ถึงยอมจ่ายเงินให้กับกระเป๋าเบาเล็กๆ ในราคา 6-7 หลักได้แบบไม่เสียดาย ที่เป็นแบบนั้นเพราะนอกจากความสวยงาม หรูหรา บ่งบอกถึงสถานะแล้ว กระเป๋าเหล่านี้ยังมีมูลค่าในตัวเองประหนึ่ง "สินทรัพย์" ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในตัวเอง เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ 

การลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม จึงเป็นการลงทุนทางเลือก สำหรับคนที่ชอบกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นทุนเดิม และต้องการสร้างความมั่งคั่งในแบบที่ตัวเองคลั่งไคล้ โดย "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้รวบรวมแนวทางการลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมแบบเจาะลึก ที่เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่ รวมไปถึงคนที่ลงทุนอยู่ จากการบรรยายเรื่อง "วิธีทำกำไรจากกระเป๋าแบรนด์เนม" ในหลักสูตร "Alternative Investment Season 1 ทางรอดฝ่าวิกฤตกับสินทรัพย์ทางเลือก" 

ศุภาณัท จรูญพรภักดี นายกสมาคมแบรนด์เนมมือสอง (Secondhand Brandname Association-SBA) ให้ข้อมูล เกี่ยวกับการลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งควรทำความเข้าใจ 4 เรื่องหลัก ที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม ดังนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

• ศุภาณัท จรูญพรภักดี เปิด 7 วิธีนำ 'แบรนด์เนมมือสอง' มาทำ 'ธุรกิจ'
• 'กัญญารัตน์ พลาดิศัย' ลงทุน ‘กระเป๋า’ แบรนด์เนม รุ่นไหนดี
• สมการลงทุน 'นาฬิกาหรู' หลีกหนีคำว่า 'ขาดทุน'

การเริ่มต้นลงทุนใน "กระเป๋าแบรนด์เนม" และการลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ก็ตามจะต้องเริ่มต้นจากการ "ศึกษาข้อมูล" เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในสินทรัพย์นั้นๆ ก่อน 

นายกสมาคมแบรนด์เนมมือสอง กล่าวว่าการลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนม ควรจะศึกษา 5 เรื่องหลักให้เข้าใจ เพื่อนำไปสู่การลงทุนที่เป็นไปตามเป้าหมายประกอบไปด้วย 

1. รู้แหล่งซื้อสินค้าแบรนด์เนม การลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมจะต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจในกระเป๋าแบรนด์เนมก่อน ต้องรู้ว่า เราจะซื้ออะไร คือจะซื้อกระเป๋าอะไร ซื้อที่ไหน จะซื้อทำไม คือซื้อกระเป๋าไปเพื่ออะไร ซื้อเพื่อใช้หรือเพื่อลงทุน ซื้อที่ไหน คือต้องรู้ว่าหาซื้อกระเป๋าเหล่านั้นได้ที่ไหนบ้างจึงจะได้ของแท้และราคาดี ซื้อเมื่อไรจึงจะคุ้มกับเงินที่เสียไป และซื้อแบบไหนรุ่นไหนจึงจะเหมาะสมกับเป้าหมาย

2. รู้แหล่งขายสินค้าแบรนด์เนม การลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมต้องรู้จักแหล่งขายสินค้าด้วย เนื่องจากมีผลต่อเรื่องสภาพคล่องและการทำกำไร 

3. รู้ว่าธุรกิจแบรนด์เนมมีอะไรที่น่าลงทุนบ้าง การลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมมีหลากหลายมิติ ดังนั้น เมื่ออยากลงทุนจะต้องรู้ว่าสามารถลงทุนในลักษณะใดได้บ้าง เช่นการขายต่อ การปล่อยเช่า การลงทุนในแบรนด์เนมมือสอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย

4. เข้าใจกฎหมาย บัญชี และภาษี กระเป๋าแบรนด์เนมเป็นสินค้าที่มีราคาสูงมาก ทำให้ต้องมีเรื่องกฎหมาย บัญชี และภาษี เข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่ศึกษาให้ดีอาจทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย

5. ดูของแท้ของปลอมให้เป็น ปัจจัยที่สำคัญมากๆ สำหรับการลงทุนกระเป๋าแเบรนด์เนม คือจะต้องดูของแท้ของปลอมให้เป็น เพราะปัจจุบันมีสินค้าลอกเลียนแบบจำนวนมาก โดย ศุภาณัท ได้แนะนำทริคให้ผู้ที่สนใจลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมในการช่วยดูว่าเป็นสินค้าของแท้หรือไม่ ด้วย 5 วิธีนั่นคือ

แหก: หมายถึงการเปิดกระเป๋าดูรายละเอียดทุกซอกทุกมุม
ดู: สำรวจดูเนื้อกระเป๋า และอุปกรณ์ต่างๆ
ส่อง: ส่องรายละเอียดของรอยประทับของแบรนด์ รายละเอียดของอุปกรณ์ ที่ช่วยสะท้อนว่าเป็นของแท้หรือไม่
ดม: การดมกลิ่นกระเป๋า โดยเฉพาะกระเป๋าหนังสัตว์ จะช่วยให้ได้สัมผัสกลิ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยพิสูจน์ได้ว่าหนังสัตว์นั้นเป็นของแท้หรือไม่
สั่งสมประสบการณ์: สิ่งที่จะทำให้เราสามารถแยกของแท้ของปลอมได้แม่นยำ คือการสั่งสมประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดเรียนรู้

นอกจากการทำความเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ แล้ว ยังต้องอัพเดทข้อมูลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ศุภาณัท ได้อธิบายถึงสิ่งที่คนลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมเข้าใจผิด จนอาจมีส่วนให้ไม่สามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนนั่นคือความเข้าใจผิดว่า กระเป๋าแบรนด์เนมทุกใบจะทำกำไรได้เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งความเป็นจริงแล้วจะแตกต่างกันออกไปตามแบรนด์ รุ่น และความนิยม

บางคนเข้าใจผิดว่าการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมาใช้ในชีวิตประจำวันเท่ากับการลงทุน ทั้งที่ความจริงแล้วจะต้องมีการเก็บรักษาที่ดีมาก และสึกหรอน้อยที่สุดจึงจะมีราคาที่ดี หรือแม้แต่บางครั้งก็มีความเข้าใจผิดว่ากระเป๋าแบรนด์เนมจะขายที่ไหนก็ได้ราคาเหมือนกัน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วแต่ละที่ก็มีความนิยมที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาในช่วงนั้น และความนิยมของประเทศนั้นด้วย

เว็บไซต์ statista.com แสดงมูลค่าแบรนด์หรูที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับในปี 2020 ที่สะท้อนถึงความนิยมของผู้ใช้กระเป๋าและซื้อเพื่อการลงทุน โดยพบว่าแบรนด์อันดับหนึ่งคือ หลุยส์ วิตตอง มูลค่า 1,611,559 ล้านบาท อันดับสอง ชาเนล มูลค่า 1,124,235 ล้านบาท และอันดับสาม แอร์เมส มูลค่า 1,027,374 ล้านบาท ตามมาด้วยแบรนด์อื่นๆ อย่าง กุชชี่, โรเล็กซ์, คาเทียร์, คริสเตียน ดิออร์, อีฟส์ แซงต์ โลรองต์, เบอร์เบอรี่ และปราด้า

จะเห็นได้ว่า การลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ใช่แค่การซื้อมาเก็บ หรือซื้อมาถือเพื่อรอเพิ่มมูลค่าเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในหลากหลายมิติ เพื่อช่วยสนับสนุนให้การลงทุนกระเป๋ามีความสมดุลทั้งเรื่องความชอบและความมั่งคั่งในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคืออย่าลืมว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง" และต้องคำนึงถึง "จริตในการลงทุน" ของตัวเอง เพื่อช่วยให้ตัวเองมีความสุขระหว่างที่กำลังลงทุนด้วย