“ยูเอชจี ”สบช่องโควิด เช่าอพาร์ทเม้นท์บริหารต่อ

นายวุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการกลุ่มยูเอชจี ผู้พัฒนาโรงแรมและอาคารสำนักงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบกับทุกธุรกิจโดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนต่างชาติหายไปตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าของโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์หลายแห่งที่ไม่ได้ทำธุรกิจโรงแรมเป็นหลักตัดสินใจปล่อยเช่าระยะยาวให้กับกลุ่มผู้บริหารโรงแรมที่สนใจและมีเงินทุนไปบริหารต่อ

หนึ่งในนั้นคือ เจ้าของ ศิริสาทร เรสซิเดนท์ ที่อยู่ในซอยศาลาแดง ถนนสีลม ที่บริษัทเพิ่งได้เช่าระยะยาวเป็นระยะเวลา 18 ปีในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และได้ปรับมาเป็นโรงแรมศิริสาทร กรุงเทพ บายยูเอชจี เพื่อรองรับลูกค้าคนไทยในช่วงนี้

“ถือเป็นโอกาสในวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้นกับเรา ทำให้สามารถขยายธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต เพราะหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายโรงแรมนี้สามารถรองรับกลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาในพักในย่านนี้ได้ทันที โดยในระหว่างนี้ได้ลงทุนรีโนเวท40-50ล้านบาทในแต่ละชั้นจากเดิมขนาดห้อง90 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา4,000 บาท เหลือ 45 ตร.ม. พร้อมกับปรับลดราคาลงมาเหลือ 900 บาทเพื่อดึงดูดให้คนไทยเข้ามาใช้บริการ รวมทั้งปรับพื้นที่ส่วนกลางให้ดูทันสมัยขึ้นจากเดิมที่มีจำนวน 140 ห้องหลังรีโรเวทเพิ่มเป็น 167 ห้อง”

นายวุฒิพล กล่าวว่า ในไตรมาส 4 ปีนี้บริษัทเตรียมปรับแผนการตลาดสอดคล้องกับนโยบายรัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในทุกรูปแบบเพื่อสร้างรายได้เข้ามาในบริษัทชดเชยกับรายได้ที่หายไปจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างชาติ80% คนไทย20% ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงหันมาขยายฐานลูกค้าคนไทยโดยใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้น3-4เท่าตัวเพื่อสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยผ่านทางโซเซียลมีเดีย อาทิ เฟสบุ๊ก ไอจี ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าคนไทยทำให้ในช่วงที่ผ่านไม่มีการปิดโรงแรมในเครือ 6 แห่งพร้อมกับเปิดเพิ่มอีก3 แห่ง

ได้แก่ โรงแรม The Quarter Phromphong ขนาด 88 ห้อง ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 โรงแรม The Quarter Ploenchit จำนวน 113 ห้อง และโรงแรม The Quart Ruamrudee จำนวน 150 ห้อง ในซอยร่วมฤดี และปลายปีนี้จะเปิดโรงแรม The Quarter Silom จำนวน 150 ห้อง สีลม 6 ถนนสุริวงศ์ ตามแผน

“บทเรียนจากโควิดทำให้เราได้เรียนรู้ถึงการดิ้นรนเอาตัวรอดจากวิกฤติด้วยการไม่ยอมแพ้ ด้วยการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เช่น การเปิดให้บริการลูกค้าหรือองค์กรที่เข้ามาใช้บริการช่วงเกิดโควิดในราคาพิเศษ แทนที่จะปิดให้บริการอย่างน้อยได้เงินสดเข้ามาและยังสามารถขยายฐานลูกค้าคนไทยให้เป็นที่รู้จักโรงแรมในเครือ รวมทั้งช่วงเหลือคู่ค้าที่เข้ามาเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานด้วยการลดค่าเช่า20-30% ”

นายวุฒิพล ยังกล่าวว่า แม้ว่าปีนี้จะกำไรน้อยลง แต่ไม่ถึงกับขาดทุน ปัจจุบันมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคนไทยอยู่ที่85 % แต่ในอนาคตเมื่อเปิดประเทศสัดส่วนต่างชาติเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยในปีนี้เป้ารายได้ของบริษัทลดลง 40% ส่วนในปีนี้ คาดว่า สถานการณ์จะดีขึ้นและสิ้นปีหน้าบริษัทสามารถกลับมาทำกำไรได้ 300 ล้านบาทเท่ากับปี2561