'ทีวีโฮมชอปปิง' ทรงพลัง 9 เดือนโตพุ่ง 1.4 หมื่นล้าน
โลกหลอมรวมทุกสื่อเข้าด้วยกัน ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ เพื่ออยู่ในชีวิตของผู้บริโภค(On Life) การแยกหรือให้ความสำคัญช่องทางใดช่องทางหนึ่ง อาจไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมตลาด
ในโลกของการค้าขาย “ช่องทางจำหน่าย” มักถูกยกให้เป็น “กระดูกสันหลัง” ของธุรกิจ อดีตการขายผ่านช่องทางออฟไลน์ เช่น ร้านค้าทั่วไป ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ แบรนด์ไหน “กุมฐานทัพ” ช่องทางเหล่านี้ได้มากสุด โอกาสชนะ! มีสูงมาก ทว่าบริบทแวดล้อมเปลี่ยน ช่องทางใหม่ๆมีมากมาย ออฟไลน์ ออนไลน์อย่างเดียวไม่ได้ ยุคนี้ต้อง “Omni Channel” มีสินค้าไปเสิร์ฟผู้บริโภคทุกแพลตฟอร์ม จึงจะเพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย โกยรายได้
แม้อิทธิพลของโลกออนไลน์จะทรงพลัง แต่ “ทีวี” ยังเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างสุด (Mass) แต่พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ดูทีวีลดลงทำให้อุตสาหกรรมจอแก้วแผ่วลงไปบ้าง มีเวลาในการออกอากาศเหลือ รวมถึงการเกิดทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียมมากมายหลายช่อง สิ่งที่ตามมาคือปรากฎการณ์ “ทีวีโฮมชอปปิง” ยึดเวลาขายสินค้าหน้าจอจนทำเงินมหาศาล ยิ่งปีนี้โรคโควิด-19 ระบาด ทำให้คนออกจากบ้านไม่ได้ การช้อปผ่านจอแก้วจึงเติบโตขึ้น
ธนะบุล มัทธุรนนท์ นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) และแม่ทัพใหญ่แห่งทีวีไดเร็ค ฉายภาพว่าโควิด-19 เป็นตังเร่งทำให้การจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านทีวีเติบโตขึ้น โดย 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) มูลค่ารวมแตะ 14,000 ล้านบาท แซงทั้งปี 2562 ยิ่งเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนตลาดรวมอยู่ที่ 10,700 ล้านบาท
“การโตของธุรกิจทีวีโฮมชอปปิงมาจาก 2 ส่วน คือ 1.สภาวะตลาดที่ผู้บริโภคออกไปใช้ชีวิตซื้อสินค้านอกบ้านไม่ได้ ทำให้ซื้อสินค้าผ่านทีวี ช่องทางออนไลน์มากขึ้น และ 2.ความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ ที่สมาชิกในสมาคมปรับปรุงมาตรฐานการขายสินค้า คุณภาพ ราคา ตอบโจทย์ผู้ซื้อ จนเกิดความเชื่อมั่น”
แนวโน้มการเติบโตของชอปปิงผ่านทีวีไม่หยุดเท่านี้ เพราะวิถีชีวิตปกติใหม่หรือ New Normal จะเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เคยชอบไปเดินห้างค้าปลีก เปลี่ยนไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางใหม่ๆ ทั้งทีวี ออนไลน์มากขึ้น เพราะตอบโจทย์ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเงาตามตัวคือ “การแข่งขัน” จะทวีความรุนแรงซึ่งถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วในสังเวียนธุรกิจ
ด้าน องอาจ ประภากมล อุปนายกสมาคม ทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แห่งทรูช้อปปิ้ง ย้ำว่า จุดแข็งของทีวีโฮมชอปปิง คือการเป็นช่องทางขายที่ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่มทุกวัยอย่างแท้จริง เพราะผู้ประกอบการทุกรายนอกจากมีทีวีไว้นำเสนอสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง ยังมีแอพพลิเคชั่นรองรับการซื้อผ่านออนไลน์ รวมถึงมีคอลเซ็นเตอร์ที่พร้อมให้บริการทุกเมื่อ
“ทีวีโฮมชอปปิงถือเป็นช่องทางที่ผลัก หรือ Push ข้อมูลสินค้าให้ผู้บริโภครรับรู้ ปูทางไปสู่การค้นหาในช่องทางอื่นๆ และวันนี้ทีวีช้อปปิ้งเป็นออมนิชาแนลที่เข้าถึงทุกช่องทาง มีรายการออกอากาศ24 ชั่วโมง คนดูทีวีดิจิทัล ยังสามารถเจอสินค้าเราได้ออนไลน์ โซเชียลมีเดีย มาร์เก็ตเพลส เจอเราได้ทุกช่องทาง”
นอกจากนี้ การซื้อสินค้าหากไม่ตรงกับความต้องการ ผู้บริโภคไม่ต้องส่งคืนเอง เพระาเพียงกริ๊ง!หรือโทร.หาผู้ประกอบการ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปรับสินค้า เปลี่ยนคืนให้ถึงบ้าน นาทีนี้ยังเป็นจังหวะดีที่แบรนด์สินค้าต่างๆจะขยายช่องทางมาอยู่บนหน้าจอเพื่อสร้างยอดขาย เพราะถือเป็นช่องทางเดียวที่ได้ทั้งโฆษณา สร้างการรับรู้แบรนด์ บางค่ายผลิตรายการหรือทำโปรดักชั่นให้ และมีฐานข้อมูลว่าเวลาไหนควรขายสินค้าใดเจาะผู้บริโภคให้ตรงกับนาทีทองที่คนดูมาก(traffic) และยังมีระบบหลังบ้านให้บริการด้วย
“กรณีเลวร้ายสุดสุด หากยอดขายสินค้าผ่านทีวีโฮมชอปปิงไม่ดี ยังได้โปรดักชั่นไปต่อยอดการขายสินค้าบนออนไลน์ต่อ ถือเป็นความคุ้มค่า”
สรโชติ อำพันวงษ์ กรรมการ สมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) แม่ทัพแห่งช้อปแชนแนล มองว่าทีวีโฮมช้อปปิ้งเป็นทุกจุดสัมผัส(Touch point)ของผู้บริโภค และมีการเก็บข้อมูล(Data) ที่ยุคนี้มีค่าดั่ง “ทองคำ-น้ำมัน” นำไปต่อยอดธุรกิจทั้งทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดหรือโปรโมชั่นแบบไหน ลอยัลตี้โปรแกรมใด โดยออกแบบเฉพาะ(Customize)ให้กับลูกค้าแต่ละรายได้โดนใจยิ่งขึ้น
ตัวอย่างของ ช้อปแชนแนล สามารถขายสินค้าเครื่องประดับราคา 2 แสนบาทผ่านจอแก้วได้ เพราะผ่านการลองผิดลองถูก และเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค จนออกแบบกลยุทธ์การตลาดเพื่อโน้มน้าวใจผู้บริโภคกำลังซื้อสูงที่เป็นตลาดเฉพาะ(Niche Market)ให้ซื้อสินค้าได้
“ดาต้าคือเพระเจ้า เวลาจะทำการตลาดเราต้องถามดาต้าก่อน เพื่อแบ่งลูกค้าเป็นหลายระดับชั้น(Tier) เช่น ซื้อครั้งแรก ซื้อถี่ประจำ เพื่อออกแบบกลยุทธ์ กิจกรรมต่างๆเจาะลูกค้าเฉพาะเจาะจงหรือ Personalize ได้”