“ชาญอิสสระ”เร่งปิดดีลขายบิ๊กล็อตเศรษฐี-นักลงทุน

“ชาญอิสสระ”เร่งปิดดีลขายบิ๊กล็อตเศรษฐี-นักลงทุน

“ชาญอิสสระ” รับโควิดสะเทือนยอดขาย ไตรมาส 4 เร่งสปีดเจรจาบิ๊กล็อตเศรษฐี นักลงทุน เพิ่มสภาพคล่อง พร้อมผุดแคมเปญระบายสต็อก 9 โครงการ ดีเดย์ พ.ย. เปิดตัวลักชัวรีคอนโด โลว์ไรซ์ เขาตะเกียบ หัวหิน

นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยี สารสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อลดลงทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ยอดขายในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ที่ผ่านมา ลดลงจากที่เคยประเมินไว้ ทั้งปีรายได้จึงไม่น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย

ดังนั้นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทจึงเร่งปิดการเจรจากับผู้ที่สนใจซื้อโครงการในเครือแบบยกล็อต หรือบิ๊กล็อต แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มเศรษฐี ที่ต้องการซื้อเป็นสมบัติครอบครัว มูลค่า 200-300 ล้านบาท จำนวน 6-7 ยูนิต ต้องการโครงการพร้อมอยู่ ส่วนอีกกลุ่มเป็นนักลงทุน หรือเอเยนต์จำนวน 30-50 ยูนิต ซื้อโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพราะต้องการ ผลตอบแทนจากการขายด้วยอัตราส่วนต่างกำไร (Capital Gain)

“ลูกค้า 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจะหันมาสนใจลงทุนกับสิ่งของที่จับต้องได้มากกว่าที่จะเล่นหุ้นเหมือนในอดีตเพื่อลดความเสี่ยง ขณะเดียวกันได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างน้อย 7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่นักลงทุนยอมรับได้ รวมทั้งต้องเป็นโครงการที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในระยะยาว ขณะเดียวกันบริษัทสามารถเพิ่มสภาพคล่อง และลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคธุรกิจอสังหาฯ จากนี้ไปน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปัจจัยลบหลายปัจจัยเข้ามากระทบธุรกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ในไตรมาส 4 ปีนี้บริษัทเน้นทำการตลาดเชิงรุกเพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นยอดขายอสังหาฯที่มีอยู่ในสต็อก ทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ให้ลูกค้า พร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลด เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายภายใต้แคมเปญ ISSARA DAY Yes ใน 9 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ประกอบด้วย โครงการบ้านอิสสระ บางนา, โครงการอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9, โครงการ ดิ อิสสระ สาทร, โครงการบ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่, โครงการบ้านทิวทะเล บลูแซฟไฟร์, โครงการ บลูไดมอนด์ ชะอำ-หัวหิน, โครงการ ดิ อิสสระ เชียงใหม่ เป็นต้น

โดยมอบส่วนลดสูงสุด 38%, ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 10 ปี, ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน, ฟรีอยู่ฟรี 1 ปี หรือสามารถเลือกข้อเสนอ เลือกรับรถยนต์ Audi A6 Avant 55 TFSI Quattro S-Line, ฟรีบัตรกำนัลไพรเวทเจ็ท มูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท, ฟรีมือถือ Samsung Galaxy Z Fold 2 เริ่มตั้งแต่วันนี้-15 พ.ย.ปีนี้

“เราตั้งเป้ายอดขายจาก 9 โครงการนี้ไว้ที่ 300-400 ล้านบาท โดยทุกโครงการจะเป็นโครงการพร้อมอยู่ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เพราะจากประสบการณ์ลูกค้า 50-60% ซื้อเงินสดไม่กู้ธนาคาร”

นายดิฐวัฒน์ ระบุว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯปลายปีนี้ อยู่ในภาวะยังทรงตัว โดยโครงการที่ได้รับความสนใจจะเป็นโครงการในระดับลักชัวรี ที่จับกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง ดังนั้นในเดือน พ.ย.นี้ บริษัทจึงเตรียมจะเปิดตัวโครงการ ลักชัวรีคอนโด โลว์ไรซ์ เขาตะเกียบ หัวหิน บนพื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 4-5 อาคารสูง 4 ชั้นมูลค่า 1,000 ล้านบาท ราคาขายยูนิตเริ่มต้น 5 ล้านบาท คาดว่า สิ้นปีรายได้ต่ำกว่าปีก่อน 5% จาก 2,273 ล้านบาท

“ที่ผ่านมา บริษัทเน้นการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปรับตัวในการพัฒนาธุรกิจ และที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป ด้วยการปรับกลยุทธ์ รูปแบบการตลาด ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตใหม่หลังเกิดโควิด”

นายดิฐวัฒน์ ยังกล่าวว่า แนวทางการทำธุรกิจในปีนี้บริษัทปรับตัวเพื่อให้การทำการตลาดสอดคล้องไปกับพฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยหันมาจับตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 10-30 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง เพื่อเติมพอร์ตแนวราบของบริษัทจากเดิมเน้นกลุ่มลักชัวรี ขณะเดียวกันยังคงทำคอนโด แต่รอดูสถานการณ์ ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาโครงการก่อน ซึ่งการพัฒนาโครงการใหม่ๆ จะเน้นความคุ้มค่า และเหมาะกับกำลังซื้อของผู้บริโภค