'พลังงาน' คาด รถแบคโฮ เข้าพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาตทำเหตุระเบิดท่อก๊าซ จ.สมุทรปราการ
ปตท.ยันควบคุมเพลิงไหม้จากเหตุระเบิดท่อก๊าซ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เร่งสรุป สาเหตุต่อไป เบื้องต้นคาด รถแบคโฮ เข้าทำงานในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
นายถวัลย์ ธนกิจเจริญพัฒน์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า เหตุระเบิดท่อก๊าซ ย่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กรมฯในฐานะดูแลความปลอดภัยด้านเชื้อเพลิง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นตรวจสอบอย่างเร่งด่วน หลังเกิดเหตุการณ์แล้ว เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.
ล่าสุด ได้รับรายงานว่า เพลิงสงบแล้ว ส่วนสาเหตุเบื้องต้น คาดว่า อาจเกิดจากรถแบคโฮเข้าไปทำงาน ใกล้บริเวรท่อก๊าซธรรมชาติ โดยไม่ได้ขออนุญาต จากหน่วยงานกำกับดูแล ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงาน กกพ.) และ ปตท. ซึ่งตามปกติแล้ว แนวท่อก๊าซฯ จะมีป้ายกำกับเตือน อันตราย การทำงาน ให้ระมัดระวังที่ชัดเจน แต่ที่ผ่านมาอุบัติเหตุท่อก๊าซฯ มักจะเกิดขึ้นจาก การไม่ขออนุญาตเข้าไปทำงาน และไม่ระมัดระวังจนเกิดอุบัติเหตุ โดยจะเร่งสรุปสาเหตุที่แท้จริง ต่อไป
สำหรับท่อก๊าซฯดังกล่าว เป็นท่อเส้นที่ 2 ของประเทศ มีขนาด 36 นิ้ว มีการใช้งานมานานแล้ว ส่งก๊าซฯไปใช้ในโรงงานของนิคมต่างๆ และอาจจะมีส่งไปยังโรงไฟฟ้า โดยทันทีที่ เกิดเหตุ ทาง ปตท.ได้ปฏิบัติการตามมาตรฐานดูแลความปลอดภัย และตัดระบบก๊าซฯ พร้อม แจ้งให้ โรงงานต่างๆใช้ระบบเชื้อเพลิงสำรอง เช่นน้ำมันในการผลิต หรือการเดินเครื่องอุปกรณ์ต่างๆไปก่อน เป็นต้น
นายโชคชัย ธนเมธี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 12.55 น. ของวันนี้ (22 ตุลาคม 2563) ได้เกิดเหตุก๊าซธรรมชาติรั่วและเกิดเพลิงไหม้ บริเวณตรงข้ามวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ถนนเทพราช – ลาดกระบัง ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้เกิดก๊าซฯ ฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศและเกิดการติดไฟ
สำหรับการระงับเหตุในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ปตท. ได้เข้าสู่พื้นที่เพื่อระงับเหตุ ตรวจสอบสาเหตุและดำเนินการตัดแยกระบบบริเวณช่วงท่อดังกล่าว นอกจากนี้ได้ประสานงานทีมดับเพลิงในพื้นที่เพื่อร่วมระงับเหตุ โดยขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ได้เรียบร้อยแล้ว
ปตท. จัดตั้งศูนย์ควบคุมเหตุฉุกเฉิน แจ้งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทราบ และเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ และจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป