KTB - ถือ
ผลประกอบการ 3Q63: ตัดหนี้สูญก้อนใหญ่
Event
กำไรสุทธิของ KTB ใน 3Q63 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท (-20% QoQ และ -52% YoY) ต่ำกว่าประมาณการขอเรา/consensus 3%/22% ในขณะที่กำไรสุทธิใน 9M63 อยู่ที่ 1.30 หมื่นล้านบาท (-41% YoY) คิดเป็น 103% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
lmpact
รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น แต่หักล้างไปกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นรายได้จากการดำเนินงานทั้งจาก NII และ non-NII ดีกว่าที่เราคาดไว้ แต่ก็หักล้างไปกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดน NII ลดลง 8% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 2% ใน 3Q63 และ เพิ่มขึ้น 1% ใน 9M63 เนื่องจากฐาน NII สูงใน 2Q63 เพราะมีรายได้พิเศษ 3.5 พันล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ NII จะเพิ่มขึ้น 8% QoQ และ NIM จะเพิ่มขึ้น 10bps QoQ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินลดลง
รายได้ equity income ช่วยหนุน Non-NII
non-NII ลดลงเล็กน้อย 4% QoQ และ 6% YoY ใน 3Q63 เนื่องจากค่าธรรมเนียมการธุรกรรมการธนาคารหลักลดลง 5% QoQ และ 16% YoY ใน 3Q63 และลดลง 11% ใน 9M63 ในขณะที่รายได้ equity income (ส่วนใหญ่มาจากบริษัทประกันชีวิต) สูงเกิน1 พันล้านบาท (+>200% QoQ และ +120% YoY)
คุณภาพสินทรัพย์ – ตัดหนี้สูญก้อนใหญ่
NPL โดยรวมลดลงเล็กน้อยประมาณ 4% QoQ แต่ทรงตัว YoY สะท้อนถึงการคงสถานะหนี้ที่มีปัญหาเพราะ covid-19 เป็นหนี้หนี้ performing loan ต่อไป บวกกับการ write-off หนี้เสียก้อนใหญ่ นอกจากนี้การตั้งสำรองก้อนใหญ่ (credit cost ใน 3Q63 อยู่ที่ 216bps และใน 9M63 อยู่ที่ 210bps) ก็ทำให้สัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 131% จาก124% ใน 2Q63
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563 ขึ้นอีก 18% แต่ปรับลดประมาณการปี 2564 ลง 13%
เนื่องจากผลประกอบการ 9M63 คิดเป็น 104% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2563/64 โดย 1.) ปรับเพิ่มรายได้พิเศษ 3.5 พันล้านบาท (บันทึกใน 2Q63) เข้ามาในประมาณการกำไรปีนี้ 2.) ปรับเพิ่มประมาณการ non-NII จากรายได้ equity income และกำไรจากการค้าหลักทรัพย์ 3.) ปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง และ 4.) ปรับเพิ่ม credit cost ปี 2563/64 เป็น 215bps/200bps จากประมาณการเดิมที่ 200/140bps
ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2564F ลงเหลือ 11.20 บาท (จากเดิมที่ 14 บาท) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ถือ
ถึงแม้ว่าโครงสร้างสินเชื่อของ KTB จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าธนาคารอื่น ๆ เพราะสินเชื่อภาครัฐบาลที่ความเสี่ยงต่ำคิดเป็น 15% ของสินเชื่อรวม และสินเชื่อรายย่อยสำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจก็คิดเป็นเกือบ 40% แต่ความเสี่ยงด้านสินเชื่อ และ credit cost ของ KTB ก็ยังสูงต่อเนื่อง ซึ่งแสดงว่าสินเชื่อ SME และ
สินเชื่อธุรกิจของธนาคารมีความเสี่ยงสูง กดดันประสิทธิภาพ และอัตรากำไรของ KTB ทั้งนี้ เราได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลง 13% และ de-rate P/BV เหลือ 0.5x ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11.20 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นไม่แพง เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ขาย เป็น ถือ
Risks
NPL ใหม่ และยอดกันสำรองเพิ่มขึ้น ในขณะที่ yield และ margin ลดลง.