‘โรบินฮู้ด’หนุนไทยพาณิชย์  'บิ๊กดาต้า’ปล่อยสินเชื่อเพื่อคนตัวเล็ก

แพลตฟอร์มฟู้ดดิลิเวอรี่สัญชาติไทย ที่อยู่ภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือ เอสซีบีเท็นเอกซ์( SCBx10) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) หลังจากฟูมฟัก และก่อร่างสร้างตัวมาร่วม 5 เดือน วันนี้เปิดทดลองให้บริการแล้วในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

หากย้อนดูจุดเริ่มต้น “Robinhood” ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส์ จำกัด กล่าวว่า เริ่มมาจาก การต้องการแก้ Pain Point ของตลาดฟู้ดดิลิเวอรี่ ที่เจอเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่า GP ในอัตราที่สูงจากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ ทั้งร้านค้าที่เข้าร่วมเอง หรือจากผู้ขับขี่ส่งอาหาร ซึ่งเหล่านี้ กระทบมาสู่ “ผู้ใช้บริการ”ฟู้ดดิลิเวอรี่ ที่มักมีต้นทุนในการสั่งอาหารเพิ่มขึ้น ทั้งค่าอาหารที่เพิ่มขึ้น ค่าบริการหรือขนส่งอาหารที่แพงขึ้นด้วย

ดังนั้นเพื่อแก้ Pain Point ทำให้เกิดความเสมอภาค ความเป็นธรรมในสังคม จึงเป็นจุดเริ่มต้น ให้เกิด “Robinhood” ในวันนี้ ที่ออกมาแบบมาเพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กตัวน้อย เป็นทางเลือกใหม่ให้กับทั้งร้านค้า คนขับ และผู้บริโภคในยามข้าวยากหมากแพง เพราะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม ร้านค้าได้ค่าอาหารเต็มๆ คนขับไม่ต้องถูกหักค่าหัวคิว และไม่มีต้นทุนในการสำรองจ่ายค่าอาหาร เพราะการชำระเงินผ่าน แพลตฟอร์มนี้ อยู่บน “ดิจิทัล”100% ทำให้ร้านค้าได้รับเงินเร็วขึ้นภายใน1ชั่วโมง เพื่อใช้ต่อยอดในการต่อยอดธุรกิจต่อไป

หลังจากเปิดทดลองให้บริการในช่วง 2เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน Robin hood มีร้านค้าเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มแล้ว 16,000 ร้านค้า และในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ หรือโควิด-19 ท่ามกลางตลาดแรงงานที่มีความเปราะบาง ตัวเลขว่างงานสูงขึ้น ทำให้มีคนสมัคร เป็นคนรับ-ส่งอาหารในแพลตฟอร์มนี้แล้วกว่า 10,000 คน ส่งผลให้ยอดการสั่งอาหารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรวมแตะระดับ 1แสนธุรกรรมแล้ว

ธนา กล่าวว่า ระยะถัดไป ตั้งเป้า เห็นร้านค้าเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์ม “Robinhood” ถึงสิ้นปีนี้ 3 หมื่นร้านค้า และมีคนขับเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นคน และคาดหวังเห็นออเดอร์บนแพลตฟอร์มนี้ขึ้นสู่ 20,000 ธุรกรรมต่อวันในอนาคต

“หากพูดถึงตลาดฟู้ดดิลิเวอรี่ เหมือนเรากำลังแข่งอยู่ในสนามโอลิมปิก ที่มีคู่แข่งเป็นโอลิมปิกสแตนดาร์ด คู่แข่งระดับโลกที่มีทุนหนา แต่เรามีทุนเพียง 150 ล้านบาท แต่เราค้นพบว่าเรามีประโยชน์กับร้านค้าเล็กๆให้อยู่ได้ เราค้นพบโอกาสบางอย่างที่คนอื่นๆมองไม่เห็น เราต่างจากคนอื่นๆ ที่เขาต้องการโตไปเรื่อยๆต้องการมียอดเป็นหมื่นเป็นแสน แต่เราไม่ได้เล่นเกมนั้น แต่จุดประสงค์ของเราคือทำอย่างไรให้เรามีประโยชน์กับร้านค้าเล็กๆและไรเดอร์ของเราให้มาก เพื่อให้คนเหล่านี้มีอากาศหายใจได้ และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างร้านค้ากับลูกค้าให้เจอกันแล้วมีความสุข”

ธนา กล่าวว่า แม้ว่า ในช่วง 3ปีแรกของการ ตั้ง “Robinhood” เราจะเจอผลขาดทุนไปตลอดต่อเนื่องปีละ 150 ล้านบาทใน 3 ปี แต่หวังว่า Robinhood จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำที่ช่วยเหลือสังคม โดยไม่ได้คาดหวังถึงผลกำไรในระยะสั้นๆ!!

สีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเพอร์เพิล เวนเจอร์ส กล่าวว่า แอพ “Robinhooh” จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ ต้นปี 2564 ซึ่งจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ 2.0 ที่ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น รวมถึงในอนาคตสามารถนำคะแนนสะสมบนบัตรเครดิตมาใช้ในการชำระเงิน มาใช้เป็นส่วนลดค่าส่งอาหารได้ด้วย

สุดท้ายนอกจาก “Robinhood” จะเป็นแพลตฟอร์ม CSR ช่วยเหลือร้านค้าตัวเล็ก ช่วยเหลือสังคมแล้ว เชื่อว่าระยะข้างหน้า “Robinhood” จะเป็นส่วนผลักดันสำคัญ ที่ส่งต่อไปสู่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้มี ฐานข้อมูล ฐานลูกค้า ทั้งร้านค้า คนขับ และลูกค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์ม เพื่อนำไปพัฒนาในการให้บริการ และช่วยต่อยอดให้ธนาคารมีเครื่องมือในการใช้ปล่อยสินเชื่อให้คนภายใต้แพลตฟอร์มนี้ได้ในอนาคตด้วย