สรุปครบ 'คลินิกแก้หนี้' จ่ายยาแรง 2 สูตร ช่วยใคร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง พร้อมวิธีสมัคร

สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหา "หนี้" จ่ายไม่ไหวจนหนี้เสีย "คลินิกแก้หนี้" ยังคงดำเนินงานเพื่อช่วยประชาชนแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยมาตรการล่าสุด คลินิกแก้หนี้จ่ายยาแรง สูตรที่ 2 ด้วยการขยายมาตรการช่วยเหลือออกไปจนถึงเดือน มิ.ย. 2564 

โดย "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้สรุปใจความสำคัญของโครงการคลินิกแก้หนี้ กับมาตรการช่วยเหลือที่เปรียบเหมือนการจ่ายยา 2 สูตร พร้อมช่องทางในการขอคำปรึกษาและเข้าร่วมโครงการ ดังนี้

•  คลินิกแก้หนี้ ช่วยอะไรบ้าง 

ยาแรงสูตรที่ 1: จ่ายไม่ไหว เลื่อนกำหนดชำระหนี้ให้ถึง มิ.ย 64 โดยไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ และไม่เสียประวัติ ลงทะเบียนขอรับสิทธิภายใน 20 พ.ย.63 เท่านั้น

ยาแรงสูตรที่ 2: จ่ายเท่าที่ไหวและจ่ายต่อเนื่อง ลดดอกเพิ่ม 1-2% จ่ายมากลดมาก (จ่ายค่างวดเฉลี่ยตั้งแต่ 80% ขึ้นไปลดให้ 2% ถ้าไม่ไหวแต่จ่ายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 40% ลดให้ 1%)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

• คลินิกแก้หนี้ ปรับยา 2 สูตรใหม่ ‘ลดดอก-พักหนี้’ ถึงกลางปี 64
• 'แบงก์ชาติ' แจง 'ทางด่วนแก้หนี้' ไม่ได้จ่ายหนี้แทนทุกคน

•  แนวทางการช่วยเหลือ 

กลุ่มที่ 1: ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ มีรายได้และสภาพคล่องลดลง กลุ่มนี้จะได้รับยาขนานแรก โดยโครงการได้ปรับปรุงแนวทางโดยลูกค้าต้องลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิตามมาตรการนี้ (opt in) จากเดิมให้สิทธิแก่ลูกหนี้ทุกรายเป็นการทั่วไป ลูกหนี้สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปในเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com และกรอกข้อมูลแสดงความจำนงผ่านเข้ามา (ลูกหนี้ที่สนใจจะเข้ามาตรการนี้จะต้องกรอกข้อมูลขอเข้ามาตรการ ไม่เหมือนช่วงแรก)

กลุ่มที่ 2: คือ ลูกหนี้ที่ยังพอชำระค่างวดได้ โครงการจะกระตุ้นให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ชำระค่างวดเข้ามาตามกำลังความสามารถ โดยจะได้รับยาขนานที่สอง คือ ลดดอกเบี้ยให้ 1-2% หากลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ในช่วงนี้ แต่จะมีการแบ่งกลุ่มที่จะให้ความช่วยเหลือออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้

1. กลุ่มที่จ่ายค่างวดเฉลี่ยมากกว่า 80% ในช่วง 9 เดือนข้างหน้าจะได้รับการลดดอกเบี้ย 2%
2. กลุ่มที่จ่ายค่างวดเฉลี่ย 40-79.99% ในช่วง 9 เดือนข้างหน้าจะได้รับการลดดอกเบี้ย 1%

ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่ทางคลินิกแก้หนี้ได้ลดให้ลูกหนี้ในโครงการเพิ่มเติมจะถูกนำไปตัดเงินต้น ซึ่งจะทำให้ยอดหนี้ทั้งหมดลดลงเร็วขึ้นด้วย

•  คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ "คลินิกแก้หนี้" 

1. เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี
2. เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
3. เป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อน 1 ก.ค. 63 (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือน มิ.ย. 63 ต้องมีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป)
4. หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท

•  เข้าร่วมโครงการ "คลินิกแก้หนี้" ได้ที่ไหนบ้าง 

ลูกหนี้เดิมของ "คลินิกแก้หนี้ by SAM" ลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่ >> https://bit.ly/3mda8Us

ลูกค้าใหม่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการในช่วงนี้จนถึงมิถุนายน 2564 จะได้รับสิทธิของทั้ง 2 ยาแรงเช่นกัน โดยสามารถสมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ คลิก >> https://bit.ly/3h0mNYu

ที่มา: เฟซบุ๊คคลินิกแก้หนี้ เว็บไซต์คลินิกแก้หนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย