AMATA - ซื้อ
หุ้นนิคมฯ ที่มีปัจจัยบวกมากมาย
เราชอบ AMATA จากสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและอัพไซด์ >3บาท/หุ้นจากโครงการนิคมฯ 2 แห่งในพม่าและลาว, โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ 2 แห่ง และกำไรพิเศษจากการขายบริษัทลูกให้พันธมิตร นอกจากนี้การดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวในปีหน้า เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 29% ในปี 2564F และ 25% ใน 2565F ราคาหุ้นของบริษัทตั้งแต่ต้นปีลดลง 41% ลดลงไปสู่ระดับ -1SD PBV สะท้อนความเสียงที่จำกัด เราประเมินมูลค่าหุ้นที่ 18บาทต่อหุ้น ซึ่งจะให้ผลตอบแทนรวม 56% เราแนะนำ ซื้อ
กำไรจะฟื้นตัวในปีหน้า
เราคาดว่าการดำเนินงานของนิคมฯ จะฟื้นตัวปีหน้า เราคาดว่ากำไรของ AMATA จะเติบโต 29% เป็น 1.5 พันลบ. ในปี 2564F และ 25% เป็น 1.9พันลบ.ในปี 2565F ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่าสู่ระดับ 750 ไร่ในปี 2564F และ 35% สู่ระดับ 1,013 ไร่ในปี 2565F โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการ (pent-up demand) จากกลยุทธ์ China+1, การดำเนินงานที่ดีขึ้นในเวียดนาม และภาวะการเมืองในประเทศที่ดีขึ้น
ไม่มีประเด็นด้านสภาพคล่อง
เราเชื่อว่า AMATA จะไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง โดยบริษัทได้เงินเพิ่มทุน 980ลบ.ซึ่งจะเพียงพอการลงทุนนิคมฯ ในพม่า อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ/ทุนอยู่ในระดับต่ำที่ 0.6เท่า ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2563 สะท้อนว่าบริษัทยังสามารถเงินกู้ได้อีก
อัพไซด์มากกว่า 3 บาทต่อหุ้นจากหลายปัจจัย
เรายังไม่ได้รวมอัพไซด์หลายประการในประมาณการ ได้แก่ i) นิคมฯในพม่า (5,000 ไร่) และลาว (20,000-30,000 ไร่); ii) กำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัทย่อยของ AMATAV 49% ให้แก่พันธมิตรในเวียดนาม คาดว่ารายการขายจะเกิดขึ้นในปีหน้า; และ iii) อัพไซด์จากโรงไฟฟ้า 2 แห่ง เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2566
ซื้อ และราคาเป้าหมาย 18 บาทต่อหุ้น
เราประเมินมูลค่า AMATA ที่ 18บาท/หุ้น ด้วยวิธี SOTP หรือเทียบเท่า PBV 1.2 เท่าปี 2564 ราคาหุ้นปรับลง 41% ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ BV ลดลงสู่ระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ยสะท้อนความเสี่ยงจำกัด ราคาหุ้นถูก ซื้อขาย 19% ต่ำกว่า BV เรา ซื้อ