ก้าวใหม่ 'ANC Broker' รุกตลาด 'ประกัน' ออนไลน์เต็มตัว รับดีมานด์แบบใหม่

ก้าวใหม่ 'ANC Broker' รุกตลาด 'ประกัน' ออนไลน์เต็มตัว รับดีมานด์แบบใหม่

"ANC Broker" ขยับตัวครั้งใหญ่ รุกตลาดนายหน้าประกันออนไลน์ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และขับเคลื่อนธุรกิจประกันให้รวดเร็ว ลูกค้าพอใจ ซื้อง่ายเหมือนสั่งชาไข่มุก

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ส่งผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบในธุรกิจต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ "นายหน้าขายประกัน" ที่ต้องปรับตัว เปลี่ยนวิธีคิด และการดำเนินงานที่ใหม่ เพื่อลดแรงกระแทกและเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือ "ANC Broker" นายหน้าขายประกันที่มองเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จนต้องลุกขึ้นมาปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจประกันให้เติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีและดีมานด์ของคนยุคใหม่

160485349480

ศุภกิจ ศุภบรรณพงษ์ บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด (ANC Broker) กล่าวในงาน Open House อาคารสำนักงานใหม่ของ ANC ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในฐานะของนายหน้าประกันภัยที่กำลังจะก้าวไปอีกขั้น ในฐานะของนายหน้าประกันภัยที่รุกช่องทางออนไลน์แบบเต็มตัว

บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ANC Broker" ธุรกิจที่ปรึกษาด้านประกันวินาศภัย-ประกันภัยรถยนต์ ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่เชื่อมโยงบริษัทประกัน 30 บริษัท ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันต่างๆ เข้าสู่ปีที่ 14 โดยในปี 2563 นี้ ศุภกิจ ได้นำทัพ ANC ก้าวไปอีกขั้น ผ่านแนวคิดที่ว่า ปัจจุบันยังมีคนไทยที่เข้าถึงโอกาสในการทำประกันภัยยาก ดังนั้น การมุ่งทำให้ข้อมูลดูง่าย ปรึกษาซื้อได้ง่าย เป็นน่าเชื่อถือ ทันสมัย เป็นหน้าที่ของ ANC 

คนไทยสั่งชาไข่มุกผ่านออนไลน์ได้ ก็ซื้อประกันได้เช่นกัน

"เราตั้งใจเปลี่ยนโลกประกันภัย การเงิน บัญชี กรมธรรม์ และการจัดส่ง ให้ไม่ต้องพึ่งพาบุคคล โดยพัฒนาแพลตฟอร์มให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้นหรือทันที ถ้าคนไทยสั่งชาไข่มุกผ่านออนไลน์ได้ ก็ซื้อประกันได้เช่นกัน" ศุภกิจ กล่าว

  •  ก้าวต่อไปของ ANC 

ศุภกิจ มองว่าการแข่งขันของธุรกิจประกันและตัวแทนประจำในยุคนี้มีการแข่งขันราคากันค่อนข้างดุเดือดทำให้บริษัทประกันรวมถึงรคเกอร์จะต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันในราคาที่ดีที่สุดคุ้มค่าที่สุดในช่องทางที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าประกันต้องการข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้โปรเกอร์ต้องปรับตัวในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้สะดวกที่สุด

"ANC" ในฐานะของโบรกเกอร์จะต้องมีการปรับตัวและปรับระบบการทำงานทั้งหมดเพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ในระดับราคาที่แข่งขันกับตลาดได้

โดยหลักในการแข่งขันด้านราคาจะต้องบริหารต้นทุนให้ต่ำลงโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการจัดการระบบทั้งหมดให้มีการทำงานที่เชื่อมต่อกันมีการใช้ Machine learning AI ระบบอัตโนมัติต่างๆ เข้ามา ช่วยพิจารณาความต้องการของลูกค้าแต่ละคน เช่น ลูกค้ามีความชอบประกันประเภทไหน ชอบบริษัทไหนเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากกว่าในต้นทุนที่ต่ำกว่า

นอกจากนี้ ANC ยังเน้นเรื่อง API และ Web service ซึ่งช่วยให้ไม่เสียเวลาในการคีย์ข้อมูล ที่สามารถช่วยลดขั้นตอน และเวลาการทำงานลง แต่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ CEO&Founder ANC ยังมองว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าทุกคนมีกระแสเงินสดลดลง การขายประกันที่เคยขายง่ายก็ทำได้ยากขึ้น จึงจำเป็นต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้คนต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจต่อไป

  •  นายหน้าประกันภัยยุคใหม่ในมุม ANC 

ศุภกิจ เล่าว่า ธุรกิจประกันและโบรกเกอร์ในระยะยาว เทคโนโลยีจะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และจะข้ามขีดจำกัดด้านเวลาที่ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน

สิ่งสำคัญที่ต้องพัฒนาคือพนักงานและตัวแทนประกันที่จะต้อง Reskill (รีสกิล) ตัวเองให้เป็นมากกว่าการทำงานรูทีนโดยจะต้องเพิ่มความรู้เกี่ยวกับประกันในเชิงลึกที่สามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจน มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นขณะเดียวกันโลกต่อไปจากนี้จะต้องการ craft skill หมายถึงทักษะของมนุษย์ที่ละเอียดอ่อนมากกว่าที่เทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่ได้ในตอนนี้ เช่น ทักษะการจัดการปัญหาได้ดี มีจิตใจรักการบริการ (service mind) พี่พร้อมให้บริการลูกค้าที่ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกได้ในบางเรื่อง 

กล่าวโดยสรุปคือ คนที่อยู่ในแวดวงประกันยุคใหม่จะต้องมีการพัฒนาทักษะของตัวเองให้มีความเป็นมืออาชีพ (Specialist) มากขึ้น และมี Service mind ที่ดีซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันธุรกิจประกันให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง ไปพร้อมๆ กับความสามารถที่เพิ่มขึ้นของตัวพนักงานเอง 

"Al, big data, Machine learning เป็นเรื่องพื้นฐานของโลกยุคใหม่ ไม่ต้องกลัวเทคโนโลยีที่ทำให้คนตกงาน แต่ต้องเรียนรู้ทักษะเชิงลึกเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ แล้วใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการทำงานแทน" ศุภกิจ ศุภบรรณพงษ์ กล่าว