QH - ถือ

Event

ประมาณการ 3Q63

Impact

กลับมาเปิดโครงการใหม่อีกครั้งใน 3Q63

หลังจากที่หยุดเปิดโครงการใหม่ไปใน 1H63 QH ก็กลับมาเริ่มลงทุนอีกครั้งด้วยการเปิดโครงการใหม่มูลค่า 5 พันล้านบาท (+19% YoY) ใน 3Q63 โดยเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด ในขณะเดียวกัน ยอด presales ก็อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+17% YoY, -13% QoQ) โดยยอด presales ของโครงการแนวราบยังคงเติบโตต่อเนื่อง YoY ในขณะที่ยอด presales ของโครงการคอนโดมิเนียมก็โต YoY จากฐานที่ต่ำในปีทีแล้ว และการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง (Figure 3)

คาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q63F จะลดลง 25% YoY แต่เพิ่มขึ้น 18% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q63F จะอยู่ที่ 540 ล้านบาท (-25% YoY, +18% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในเครือที่เพิ่มขึ้น และยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 9M63F จะคิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

คาดว่ายอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยใน 3Q63F จะอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+4% YoY, +7% QoQ) หนุนจากทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม (Figure 1) โดยยอดโอนโครงการแนวราบจะได้แรงหนุนจาก backlog ที่ต่อเนื่องจาก 2Q63 ในขณะที่ยอดโอนคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะมาจากยอดโอนสองยูนิตในโครงการ Q สุขุมวิท อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการที่อยู่อาศัยจะยังคงอ่อนแออยู่ที่ 31.4% (-2.2ppts YoY แตทรงตัว QoQ) เนื่องจากมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง

เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะอยู่ที่ 372 ล้านบาท (-20% YoY, +20% QoQ) โดยส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก QoQ จะมาจากการฟื้นตัวของกำไรของ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)* และ LH Financial Group (LHFG.BK/LHFG TB) (Figure 5)

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563/64F ขึ้นอีก 13%/4%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563/64F ขึ้นอีก 13%/4% เพื่อสะท้อนสมมติฐานใหม่ (ได้แก่ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ และยอดโอนที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น)

Valuation & Action

เราปรับ discount factor ของธุรกิจการลงทุนของ QH (ในการประเมินมูลค่าหุ้นโดยวิธี SOTP) โดยกำหนด holding discount ที่ 56% (จากเดิมที่ 30%) เรายังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่สำหรับปี 2564F ที่ 2.50 บาท (ประเมินมูลค่าธุรกิจ conventional ที่ 0.60 บาท และธุรกิจการลงทุนที่ 1.90 บาท)

Risks

ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง